กฟผ.ดึงไฟฟ้าภาคกลาง-มาเลเซียช่วยเสริมความมั่นคงไฟฟ้าภาคใต้ หลังแก้ปัญหาแหล่งก๊าซฯเจดีเอขัดข้องไม่แล้วเสร็จ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 30, 2017 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ตามที่ กฟผ. ได้รับการประสานจาก บมจ.ปตท. (PTT) ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่าเกิดเหตุขัดข้องในระบบส่งจ่ายก๊าซธรรมชาติจากแหล่งพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย หรือแหล่ง JDA-A18 ล่าสุดการแก้ไขยังไม่แล้วเสร็จ คาดว่าจะใช้เวลาอีกราว 10-14 วัน หรือแล้วเสร็จประมาณวันที่ 12 กรกฎาคม 2560

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กฟผ. ได้ปรับแผนการผลิตไฟฟ้าในภาคใต้ เนื่องจากโรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 2 ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงต้องหยุดการเดินเครื่อง กฟผ. จึงได้บริหารจัดการโดยปรับมาใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาเดินเครื่องโรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 1 และโรงไฟฟ้ากระบี่ โดยประสานกับ ปตท. ให้จัดส่งน้ำมันให้กับโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งเพิ่ม

ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (peak) ของภาคใต้ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,350 เมกะวัตต์ ขณะที่การผลิตไฟฟ้าของภาคใต้ในช่วงเวลาดังกล่าวสามารถผลิตได้ประมาณ 1,800 เมกะวัตต์ สำหรับไฟฟ้าส่วนที่ขาดอยู่อีกประมาณ 500-600 เมกะวัตต์ ได้มีการซื้อไฟฟ้าจากประเทศมาเลเซียเข้ามาเสริมในบางช่วงเวลา และมีการส่งไฟฟ้าจากภาคกลางไปช่วยอีกส่วนหนึ่ง รวมถึงคาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วง 10-14 วันนี้ จะสูงสุดไม่เกิน 2,500 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ในระดับที่สามารถจ่ายไฟฟ้าในภาคใต้ได้อย่างเพียงพอ

“ต้องขอให้พี่น้องประชาชน ภาคการท่องเที่ยว และภาคธุรกิจอุตสาหกรรมในภาคใต้ ยังคงช่วยกันประหยัดการใช้ไฟฟ้าต่อไปอีกจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา ในอนาคตคาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก ดังนั้น หากภาคใต้มีโรงไฟฟ้าหลักเพิ่มในพื้นที่จะช่วยให้เกิดความมั่นคงและลดความเสี่ยงได้"นายสุธน กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ