นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.43 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อ เนื่องจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.45/46 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทแข็งค่าในรอบ 26 เดือนหลังดอลลาร์โดนเทขายเมื่อเทียบกับทุกสกุลจากมีความกังวลการเมืองสหรัฐฯ ขณะที่ กลางสัปดาห์นี้จะมี FOMC แต่ทุกคนมองว่าไม่น่าจะมีอะไรเพราะเพิ่งตัดสินใจเกี่ยวกับดอกเบี้ยไป"นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวระหว่าง 33.40-33.50 บาท/ดอลลาร์
"ถ้าหลุด 33.40 อาจจะลงลึกได้ถึง 33.25 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.94 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 111.58 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1670 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.1640 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.5080 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (24-28 ก.ค.) ที่ 33.30-33.70
บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (25-26 ก.ค.) และ
ประเด็นทางการเมืองในสหรัฐฯ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI ภาคการผลิต
และภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือนก.ค. ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือน
พ.ค. และจีดีพีประจำไตรมาส 2/2560
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวในงานเสวนาหัวข้อ “รับมือค่าเงินผันผวนอย่างมั่นใจด้วย USD Futures”
โดยยอมรับว่า ค่าเงินบาทในปัจจุบันมีความผันผวนเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี ธปท. มองว่า ถึงแม้ค่าเงินบาทในประเทศอาจจะมอง
ว่าจะแข็งค่าเพิ่มขึ้นแต่จริงๆ แล้ว ถ้าเทียบกับในประเทศอื่นก็ถือว่าแข็งค่าขึ้นไม่มากนัก
- รมว.คลัง เปิดเผยว่า การไหลบ่าของทุนไทยออกไป ลงทุนในต่างประเทศในขณะที่การลงทุน ในประเทศแทบไม่มี
การขยายตัว ไม่น่าเป็นห่วงเพราะเอกชนที่ออกไปลงทุนในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีนั้นไปลงทุนในอุตสาหกรรมที่ไม่สามารถทำใน
ประเทศได้อีกแล้ว เช่น ผลิตรองเท้ากีฬา สิ่งทอที่ใช้แรงงานมาก เป็นต้น หากมีการส่งเงินกำไรกลับประเทศชาติก็จะได้ประโยชน์
- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการคณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ซึ่งมีคลังจังหวัดของบัญชี
กลาง เป็นประธาน และหน่วยงานของกระทรวงการคลังต่างๆ รวมถึงสถาบันการเงินของรัฐ ร่วมอยู่ในคณะกรรมการนี้ให้เร่ง
ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อคิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละจังหวัดเป็นการด่วน เนื่องจากเศรษฐกิจฐานรากโดยเฉพาะ
ผู้มีรายได้น้อยในต่างจังหวัด ยังยากลำบากรายได้น้อยไม่พอใช้จ่าย ทำให้รู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ดีขึ้น ทั้งที่การขยายตัวเศรษฐกิจ
ภาพรวมขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง
- บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด คาดการณ์ราคาทองคำในช่วงครึ่งหลังปี 2560 ราคาทองคำใน
ตลาดโลกน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,170-1,295 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หรือ 18,500-20,500 บาทต่อบาททองคำ โดยปัจจัยสนับ
สนุนราคาทองคำยังคงเป็นท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังเผชิญกับการสอบสวนพฤติกรรมหลายๆ ด้าน ซึ่งส่งผลโดยตรง
ต่อการบริหารประเทศ การกำหนดนโยบายด้านต่างๆ โดยเฉพาะการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการปฏิรูปภาษีรวมถึง
กังวลว่าความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศในคาบสมุทรเกาหลี ปัจจัยเหล่านี้อาจกระตุ้น จิตวิทยากการลงทุนทองคำในฐานะ
สินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ส่วนปัจจัยกดดันราคาทองคำ คือ ท่าทีล่าสุดของธนาคารกลางยุโรป (ECB), ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และ ธนาคารกลางแคนาดา ที่เริ่มทยอยปรับลดนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและกลับมาคุมเข้มนโยบายการเงินตามธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ซึ่งแนวโน้ม ดังกล่าวเป็นผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและถือเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่กดดัน ราคาทองคำในช่วงเริ่มต้นครึ่งปีหลังของปีนี้
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.)
ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเมืองในสหรัฐ ขณะที่สกุลเงินยูโรยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี
ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งสัญญาณเกี่ยวกับการพิจารณาปรับวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ
(QE) ในเดือนก.ย.
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1678 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1625 ดอลลาร์ ดอลลาร์อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.07 เยน จากระดับ 111.87 เยน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (21 ก.ค.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 6 หลังได้
รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
- รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานจาก 5 ชาติของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติตาม
ข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต รวมทั้งซาอุดิอาระเบีย จะประชุมร่วมกันในวันนี้ ที่ประเทศรัสเซีย โดยที่ประชุมจะร่วมกันเสนอ
มาตรการกระตุ้นราคาเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมโอเปกเต็มคณะในเดือนพ.ย.
- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ใน
วันที่ 25-26 ก.ค.นี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการ FOMC จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--