นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นวันนี้อยู่ที่ระดับ 33.31 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.37 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันลงไปแตะ 33.28 บาท/ดอลลาร์ เมื่อช่วงสาย
"หลักๆ มี Flow เข้ามาในพันธบัตรรัฐบาล ขณะเดียวกันก็มีการขายทิ้งดอลลาร์ทั้งภูมิภาค หลัง FOMC ออกมาให้ความ เห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อ" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่ากรอบเงินบาทวันจันทร์ที่ 31 ก.ค.จะอยู่ระหว่าง 33.20 - 33.35 บาท/ดอลลาร์ ส่วนกรอบทั้ง สัปดาห์จะอยู่ระหว่าง 33.10 - 33.40 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 33.3100 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.22 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 110.90 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1731 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1738 ดอลลาร์/ยูโร
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คงคาดการณ์อัตรการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไทยในปีนี้ไว้ที่ 3.6%
(ช่วงคาดการณ์ที่ 3.3-3.9%) ได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากอุปสงค์ภายนอกประเทศ โดยเฉพาะจากการส่งออกสินค้าที่มีแนวโน้มขยาย
ตัวดี และกระจายในหลายหมวดสินค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้น
- นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิด
เผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน มิ.ย.60 และไตรมาส 2/60 ว่า เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณการขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่ง
ออกยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก การบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณปรับตัวดีจากรายได้ที่แท้จริงของเกษตรกรที่ขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่
เศรษฐกิจไทยด้านการผลิตได้รับปัจจัยสนับสนุนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรและภาคการท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง
- กระทรวงการคลัง เผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 (ตุลาคม
2559 – มิถุนายน 2560) พบว่ารัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 1,740,349 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบ
ประมาณ 7,639 ล้านบาท หรือ0.4% มีสาเหตุจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น และการจัด
เก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต สูงกว่าประมาณการ โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษี
น้ำมัน และภาษีเบียร์
- นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ด BOI ที่มี พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาให้ส่งเสริมการลงทุนรวม 5 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 1.28 แสน
ล้านบาท
- บีโอไอเผยภาวะการส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรก 60 (ม.ค.-มิ.ย.) มีการยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน
612 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 291,790 ล้านบาท เป็นโครงการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 302 โครงการ
มูลค่าเงินลงทุน 133,494 ล้านบาท ขณะที่กำหนดเป้าหมายมูลค่าขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งปีไว้ที่ 6 แสนล้านบาท และบีโอไอมั่นใจ
ว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินถึงภาวะสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังว่า สินเชื่อสุทธิในช่วงครึ่งปีแรกแม้จะได้แรงชดเชยจาก
แรงส่งของสินเชื่อสุทธิในเดือน มิ.ย.60 ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด แต่ก็ยังมีประเด็นติดตามในช่วงครึ่งปีหลังจากความต่อเนื่องของกิจกรรม
ทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย โดยเฉพาะจากฝั่งครัวเรือน ซึ่งเมื่อประกอบกับการที่ธนาคารพาณิชย์น่าจะยังคงนโยบาย
เครดิตที่รัดกุม เพื่อดูแลการก่อหนี้ของลูกค้ารายย่อยให้เหมาะสมกับรายได้และความสามารถในการชำระคืนนี้ ก็อาจทำให้แนวโน้มการ
เติบโตของสินเชื่อรายย่อยบางประเภท อาทิ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ยังอยู่ภายใต้แรงกดดัน
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้อัดฉีดเงิน 6 หมื่นล้านหยวน (8.9 พันล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบในวันนี้ ผ่านการ
ดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations) หรือ OMO เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
- สถาบันวิจัย GfK เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีเดือน ส.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 10.8 จากระดับ
10.6 ในเดือน ก.ค. ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและสถานะการเงินของตนในเดือนข้างหน้า พร้อมกันนี้ GfK
ได้เตือนถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ซึ่งรวมถึงกระบวนการเจรจาของอังกฤษเพื่อถอนตัวจากสหภาพยุโรปซึ่งได้เริ่มขึ้นแล้ว ตลอดจนนโยบาย
การค้าที่ไม่แน่นอนของสหรัฐ และความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างเยอรมนีและตุรกี