พาณิชย์ ดันเอกชนไทยลงทุนธุรกิจคลินิกความงามและเครื่องสำอางในเมียนมา หลังมีแนวโน้มโตก้าวกระโดด

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 17, 2017 15:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ธุรกิจด้านคลินิกเสริมความงามและเครื่องสำอางในประเทศเมียนมามีแนวโน้มอัตราการเติบโตแบบก้าวกระดดด โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 14% คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมกว่า 318 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 11,100 ล้านบาท รวมทั้งพบว่า เมียนมามีงบประมาณการโฆษณาในกลุ่มอุตสาหกรรมความงามเพิ่มขึ้นมากถึง 77% ต่อปี ทำให้เป็นโอกาสของธุรกิจไทยที่จะเข้าไปลงทุนและเปิดตลาดในเมียนมาได้

"ผู้บริโภคเมียนมาจะให้ความสำคัญกับแบรนด์และคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก ซึ่งแบรนด์ไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดเมียนมามาเป็นอย่างดี ประกอบ กับชาวเมียนมาส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน และมีรายได้เพิ่มขึ้น จึงหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงามกันมากขึ้น" นางอภิรดี กล่าว

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ธุรกิจคลินิกความงามในเมียนมา ชาวต่างชาติลงทุนได้ 100% แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสุขภาพ นอกจากนี้เอกชนไทยต้องศึกษาข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในการเจาะตลาด โดยปัจจุบันผู้บริโภคเมียนมาคำนึงถึงบุคลิกภาพของตนเองมากขึ้น และมีความต้องการสินค้ามีนวัตกรรมใหม่ๆ สอดรับกับการเติบโตของสังคมเมือง ทำให้แรงซื้อมีมากขึ้น ขณะเดียวกันการเติบโตของสังคมเมือง สื่อสังคมโซเชียล ความนิยมในตัวดารา และนักแสดงไทย และการที่เมียนมาเริ่มมีเวทีประกวดต่างๆ จำนวนมาก ทำให้ผู้บริโภคยอมลงทุนเพื่อให้ตัวเองดูดี

ส่วนข้อควรระวังในการลงทุนในเมียนมา ต้องคำนึงถึงสัญญาการเช่าสำนักงาน เนื่องจากกฎหมายเมียนมากำหนดระยะเวลาการเช่าที่ต้องทำสัญญาแบบปีต่อปี และต้องชำระค่าเช่าล่วงหน้า 1 ปี , การลงทุนควรปรึกษาหน่วยงานที่มีข้อมูลด้านกฎหมายของเมียนมาเพื่อความชัดเจน เพราะเมียนมาอยู่ระหว่างการประกาศใช้กฎหมายลงทุนฉบับใหม่ปี 60 ทำให้กฎหมายลูกต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการร่าง และยังไม่มีความชัดเจน เป็นต้น

สำหรับแผนผลักดันให้ผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนธุรกิจคลินิกความงามและเครื่องสำอางในเมียนมานั้น จะเน้นกลยุทธ์เข้าไปลงทุน โดยภาคเอกชนไทยต้องขยายธุรกิจในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ เช่นเดียวกับรูปแบบของแบรนด์นิติพล และแบรนด์วุฒิศักดิ์ ด้วยการให้นักลงทุนท้องถิ่นดำเนินการและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเช่าสำนักงาน หรือการหาพันธมิตร (พาร์ทเนอร์) ท้องถิ่นที่มีศักยภาพ ที่จะช่วยเพิ่มองค์ความรู้ด้านการตลาดและการเข้าถึงตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม สินค้าเครื่องสำอาง อาหารและยา ต้องขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยาของเมียนมา โดยผู้นำเข้าต้องเป็นบริษัทเมียนมาเท่านั้น ที่สามารถเป็นผู้ขอขึ้นทะเบียนได้ บริษัทต่างชาติเจ้าของสินค้า ไม่สามารถขอขึ้นทะเบียนได้ และผู้ที่เป็นบริษัทตัวแทนจำหน่าย ต้องเป็นผู้นำเข้าสินค้านั้นเองด้วย ซึ่งต้องมีใบอนุญาตนำเข้าสินค้า ในปัจจุบันมีคลินิกเสริมความงามของไทยที่ทำธุรกิจในเมียนมาแล้วหลายราย เช่น วุฒิศักดิ์ คลินิก , นิติพล คลินิก , ดร.ปัญญา ส่วนธนพร คลินิก อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่น และพฤกษา คลินิก อยู่ระหว่างการศึกษาลู่ทางธุรกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ