สนพ.เผยนายกฯสั่งชะลอแผนซื้อไฟฟ้าสตึงมนัม จากกัมพูชา หลังให้ก.เกษตรฯศึกษาแผนใช้น้ำรองรับ EEC ให้ชัดเจน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 5, 2017 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ชะลอแผนการรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ สตึงมนัม จากประเทศกัมพูชาออกไปก่อน เพื่อให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศึกษาความต้องการใช้น้ำและแหล่งน้ำที่จะนำมารองรับพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้มีความชัดเจนมากขึ้น

"โครงการเขื่อนพลังน้ำสตึงมนัม เป็นนโยบายของภาครัฐ เป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่มองว่าการพัฒนา EEC สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องน้ำที่จะเพียงพอกับภาคอุตสาหกรรมหรือไม่ ซึ่งตามข้อมูลของกรมชลประทานพบว่าปริมาณน้ำยังขาด จากการประชุมร่วมกัน และมีคณะทำงานการผันน้ำจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาร่วมด้วย จากข้อมูลน้ำนี้ก็จะเข้ามาช่วยในพื้นที่ภาคตะวันออกได้ จึงมีการหารือเรื่องโครงการสตรึงมนัมว่าจะสามารถช่วยชดเชยได้บ้างแม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม"นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่าปริมาณน้ำที่จะใช้รอบรับโครงการ EEC ยังขาดอยู่ประมาณ 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความต้องการทั้งหมด 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการสตึงมนัมในอัตรา 10.75 บาท/หน่วยนั้น จะได้ทั้งปริมาณไฟฟ้าและน้ำ โดยเฉพาะน้ำที่จะเข้ามาช่วยในพื้นที่ภาคตะวันออกได้ราว 300 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่การคำนวณอัตรารับซื้อไฟฟ้ามาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งคำนึงถึงการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ และการส่งน้ำผ่านท่อในพื้นที่ที่เป็นหุบเขา

อย่างไรก็ตามทางกรมชลประทาน แจ้งว่าปริมาณน้ำยังเพียงพอใช้ได้อีก 12 ปี แต่หลังจาก 12 ปีแล้วปริมาณน้ำจะมีเพียงพอหรือไม่ การบริหารจัดการน้ำเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างไร ก็ต้องพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งหากยืนยันว่ามีเพียงพอ การยกเลิกการซื้อไฟฟ้าจากโครงการสตึงมนัม ก็จะไม่กระทบกับความมั่นคงด้านไฟฟ้าภาคตะวันออก เนื่องจากกระทรวงพลังงานสามารถบริหารจัดการได้

อนึ่ง รัฐบาลไทยมีแผนที่จะซื้อไฟฟ้าจากโครงการสตึงมนัม ของกัมพูชา ด้วยอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่สูงถึง 10.75 บาท/หน่วย แม้จะได้ทั้งไฟฟ้าและปริมาณน้ำเข้ามาเพื่อรองรับโครงการ EEC ก็ตาม เมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิตไฟฟ้าของไทยที่เฉลี่ยอยู่ที่ราว 2.60 บาท/หน่วย และราคาขายปลีกไฟฟ้าในประเทศอยู่ที่ราว 3.6 บาท/หน่วย ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างมาก ขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทย เตรียมเดินทางเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ก.ย.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ