ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.06 แนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง รับเม็ดเงินไหลเข้าพันธบัตร-ตลาดหุ้น มองกรอบวันนี้ 33.05-33.12

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 8, 2017 09:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.06 บาท/ดอลลาร์ จาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.08 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าสุดในรอบ 28 เดือน นับตั้งแต่ พ.ค.58 โดยวันนี้เงินบาทยังมีทิศทางที่แข็งค่าได้ต่อ ให้ แนวรับสำคัญไว้ที่ 33.00 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากยังคงมี flow เข้ามาทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรของไทย หลังจากที่นักลงทุน ต่างประเทศค่อนข้างมีความกังวลต่อสถานการณ์ในเกาหลีเหนือ

"flow ยังเข้ามาต่อเนื่องทั้งตลาด bond และตลาดหุ้น หลังจากที่นักลงทุนค่อนข้างกังวลกับเหตุการณ์ในเกาหลีเหนือ เรื่องการทดลองขีปนาวุธที่อาจจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ที่เป็นวันชาติของเกาหลีเหนือ จึงทำให้นักลงทุนปรับ port มาลงทุนตลาดในแถบนี้ จึงทำให้บาทแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.05-33.12 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.42 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.86 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2022 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1977 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1260 บาท/
ดอลลาร์
  • นักธุรกิจญี่ปุ่น 600 ราย เตรียมยกทัพพบนายกฯ 11 ก.ย.นี้ ก่อนลงทุนพื้นที่อีอีซี 13 ก.ย. พร้อมจัดเวทีสัมมนาใหญ่
ญี่ปุ่น-ไทยกว่า 1,200 รายคึกคัก และเปิดโต๊ะเจรจาจับคู่ธุรกิจหวังช่วยดันการลงทุนในประเทศไทยเพิ่ม ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม
ดึงบิ๊กเอกชนไทยเบฟฯ-น้ำตาลราชบุรีตั้งนิคมอุตสาหกรรมอาหารครบวงจร
  • สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) เปิดเผยว่า ในเดือนธันวาคม 2560 นี้ สด
ช.จะประกาศตัวเลขดัชนีชี้วัดด้านดิจิทัลของประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดย สดช.ได้ร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) วัด
ผลตั้งแต่เดือนมกราคม-ตุลาคม 2560 ขณะเดียวกันก็จะคาดการณ์ตัวเลขของปี 2561 ด้วย เพื่อทำให้ประเทศไทยมีตัวชี้วัดด้านดิจิทัล
เหมือนต่างประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซียก็มีการประกาศตัวเลขดัชนีชี้วัดด้านดิจิทัลของปี 2563 จะโตขึ้นเป็น 20% จากปี 2555 ที่
มีตัวเลขอยู่ที่ 17% ดังนั้น เมื่อประเทศไทยมีตัวเลขดังกล่าวก็จะทำให้เอกชน ตลอดจนภาครัฐ สามารถนำไปอ้างอิงเพื่อดึงดูดนักลงทุน
เข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้
  • รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับลดประมาณการการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 2/2560 ลง
สู่ระดับ 2.5% จากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ซึ่งระบุว่า ขยายตัว 4.0% เมื่อเทียบรายปี
  • กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับที่ 2.32 ล้านล้าน
เยน (ราว 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนของต่างประเทศ
  • ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็น
ประวัติการณ์

ขณะเดียวกัน ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 6 หมื่น ล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนธ.ค. อย่างไรก็ดี ECB ระบุว่าอาจมีการเพิ่มวงเงิน QE หรือขยายเวลาในการใช้มาตรการ QE หาก แนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง

  • สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) ภาย
หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงนโยบายการเงินตามคาดในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นายมาริโอ ดรากี ประธาน
ECB เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB จะพิจารณาเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตาม
มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ พร้อมกับแย้มว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดภายในเดือน
ต.ค.นี้
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงิน
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และคงวงเงินในการซื้อ
พันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวานนี้
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้น 62,000 รายใน
สัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 298,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ
241,000 ราย
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรยึดมั่นตามแผนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

อย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ระบบการเงินมีความสมดุล และเศรษฐกิจไม่เผชิญภาวะร้อนแรงเกินไป นอกจากนี้ ยังกล่าวสนับสนุนแผน

การปรับลดงบดุลของเฟดจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในอนาคตอันใกล้ โดยจะมีการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะไม่

ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวพุ่งขึ้นมากเกินไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ