นายกฯ รับข้อเสนอภาคเอกชนพัฒนาพื้นที่ภาคกลางสอดคล้องแผนฯ 12

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 19, 2017 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ สภาเกษตร และภาคประชาชนในพื้นที่ภาคกลาง เมื่อเย็นวานนี้ ได้นำข้อเสนอทิศทางการพัฒนาพื้นที่ภาคกลางมาเปรียบเทียบกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12

โดยสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานว่า สภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคกลางค่อนข้างดี ทั้งด้านอุตสาหกรรม การค้า การท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นพื้นที่ในแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เชื่อมโยงประเทศเมียนมา ไทย กัมพูชา และเวียดนาม เป็นเส้นทางลัดในระบบขนส่งเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนกับโลกตะวันตกและโลกตะวันออก ซึ่งได้กำหนดทิศทางการพัฒนาพื้นที่ภาคกลางไว้ 6 ประการ เช่น พัฒนากรุงเทพฯ ให้เป็นมหานครที่ทันสมัยระดับโลกควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิต และแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเมือง, พัฒนาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ, ยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมโดยใช้นวัตกรรม, บริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และคงความสมดุลย์ของระบบนิเวศน์อย่างยั่งยืน, เปิดประตูการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว, เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกับทุกภูมิภาคเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและลดความเหลื่อมล้ำในประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อนำมาเทียบแล้วมีหลายเรื่องที่ตรงกัน นายกรัฐมนตรีจึงให้จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการให้ได้ภายในปี 61-62 หรือตามกำหนดเวลาไว้ โดยห้ามเลื่อนกำหนดอย่างเด็ดขาด พร้อมกันนี้ให้รับข้อเสนอนำมาพิจารณาดูว่าอะไรทำได้ หากอะไรทำไม่ได้ก็ต้องอธิบายให้เข้าใจ

"ข้อเสนอให้ก่อสร้างทางกลับรถในเส้นทางรังสิต-นครนายก แต่มีข้อเสนอให้ยกระดับสะพานข้ามคลองแล้วทำที่กลับรถใต้สะพาน ซึ่งไม่ตรงกัน แต่จะไปดูว่าแนวทางไหนทำได้" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาคเอกชนยังเสนอให้มีบริการเรือเฟอรี่เพิ่มเติมจากท่าเรือจุกเสม็ดมายังท่าเรือบางสะพาน, การลดขนาดพื้นที่เขตเศรษฐกิจที่จังหวัดกาญจนบุรีจากเดิม 2,300 ไร่ เหลือ 500 ไร่ตามความต้องการของภาคเอกชนในพื้นที่ก่อนแล้วค่อยขยายเพื่มเติมภายหลัง, ร่นระยะเวลาในการปล่อยน้ำเพื่อเกษตรกรรม โดยเกษตรกรจะร่นระยะเวลาเพาะปลูกให้สอดคล้องกัน

"รัฐบาลมีแผนของสภาพัฒน์อยู่แล้วฟังข้อเสนอของทุกภาคส่วน อะไรที่ตรงกันเอามาทำก่อนให้เป็นผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว อะไรที่ไม่ตรงกันมาหาข้อสรุปว่าทำได้หรือไม่ได้ ถ้าทำไม่ได้ต้องชี้แจงให้เข้าใจ อย่าปล่อยให้มีความคับข้องใจ" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ