ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.10 ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ก่อนอ่อนค่าช่วงท้ายตลาด รอความชัดเจนจากประชุมกนง.พุธนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 25, 2017 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.10 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดเช้าที่ระดับ 33.08 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 33.08-33.10 บาท/ดอลลาร์ ตลาดยังรอปัจจัยใหม่เข้ามา

"ระหว่างวันบาทค่อนข้างทรงตัว ก่อนที่จะอ่อนค่าช่วงท้ายตลาด หลังมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังออกมาเสนอให้ กนง.ปรับลดดอกเบี้ยถึง 0.50% ขณะที่ตลาดมีธุรกรรมค่อนข้างเบาบาง รอดูผลประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธนี้" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดทิศทางค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้จะอยู่ในกรอบ 33.05-33.15 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 112.04 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.31 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1888 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1928 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,667.59 จุด เพิ่มขึ้น 8.54 จุด, +0.51% มูลค่าการซื้อขาย 50,539.20 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 588.61 ล้านบาท(SET+MAI)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.00-33.20
บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์อาจฟื้นตัวเพียงชั่วคราว เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงของคณะกรรมการของเฟดที่มี
สิทธิลงมติตัดสินใจด้านนโยบาย และคาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ในการ
ประชุมวันที่ 27 ก.ย.60
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย (TMB Analytics) คาดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ตลอดปี 2560 แต่มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 2 ครั้งในปีหน้า หากการลงทุนภาคเอกชนไทย
กลับมาฟื้นตัวชัดเจนและเฟดยังขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อปรับให้อัตราดอกเบี้ยกลับไปอยู่ในสภาวะปกติและไม่ให้ส่วนต่างดอกเบี้ยของ
ไทยกับสหรัฐฯ ห่างกันมากเกินไป ดังนั้นผู้ประกอบการควรมีการบริหารความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่อาจปรับเพิ่มขึ้นในปีหน้านี้
  • SCB EIC มองผลการเลือกตั้งเยอรมนีที่เป็นไปตามคาดช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้เศรษฐกิจยูโรโซนเติบโตได้ต่อเนื่อง
และจะสนับสนุนให้ความต้องการสินค้าส่งออกจากไทยไปยูโรโซนเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยไทยมีสัดส่วนในการส่งออกไปยังกลุ่ม
ประเทศดังกล่าวถึง 12% ของส่งออกทั้งหมด นำโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์
และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ระบายเม็ดเงิน 8 หมื่นล้านหยวน (1.21 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ออกจากตลาด
การเงินในวันนี้ ผ่านการดำเนินการทางตลาดเงิน (Open Market Operations: OMO) เนื่องจากพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอน
นั้น มีมูลค่ามากกว่าเม็ดเงินที่ได้อัดฉีดเข้าสู่ตลาดการเงิน
  • นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ออกมายืนยันว่า รัฐบาลจะประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อ
จัดการเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน นายอาเบะก็ยอมรับว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ยากลำบากสำหรับรัฐบาล
  • รัฐบาลญี่ปุ่นได้คงระดับการประเมินภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่น "ฟื้นตัวปานกลาง" ใน
เดือนก.ย. ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่รัฐบาลญี่ปุ่นประเมินภาวะเศรษฐกิจด้วยถ้อยคำดังกล่าว
  • คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตรา
ดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกับส่งสัญญาณการปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้

นอกจากนี้ เฟดยังได้ประกาศว่า จะเริ่มปรับลดงบดุลที่ประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือ MBS ในเดือนต.ค. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

  • คณะกรรมาธิการการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐเตรียมเปิดการอภิปรายเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ใน
วันนี้ เพื่อนำมาบังคับใช้แทนที่กฎหมายโอบามาแคร์ของรัฐบาลชุดก่อน โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า "คาสซิดี-เกรแฮม" ซึ่ง
ผลักดันโดยวุฒิสมาชิก บิล คาสซิดี และ ลินด์ซีย์ เกรแฮม จากพรรครีพับลิกัน
  • Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีอ่อนตัวลงสู่ระดับ
115.2 ในเดือนก.ย. จากระดับเดือนส.ค.ที่ 115.9 ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ