นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงยอดการใช้บัตรสวัสดิการวันแรก (1 ต.ค.) ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะมียอดการใช้จ่ายกว่า 90 ล้านบาท มียอดการซื้อสินค้าผ่านบัตรสวัสดิการกว่า 3 แสนรายการ มีการใช้บริการผ่าน บขส. 200-300 รายการ แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะการขาดความรู้เกี่ยวกับร้านค้าที่รับบัตรสวัสดิการ เรื่องนี้ต้องเร่งประชาสัมพันธ์อย่างมาก รวมถึงต้องเร่งติดเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) เพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานผ่านบัตรสวัสดิการได้มากขึ้น
“ตอนนี้ผู้มีรายได้น้อยบางส่วนยังไม่รู้ว่าสามารถใช้บัตรสวัสดิการได้กับร้านค้าใดบ้างในพื้นที่ของตน ดังนั้นกระทรวงการคลังจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อหาแนวทางในการแก้ไข รวมถึงปัญหาอื่น ๆ ที่เป็นเรื่องทางเทคนิค เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต ก็ต้องหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไป รวมทั้งยังต้องเร่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบติดตั้งเครื่อง EDC ให้ได้ตามเป้าหมายด้วย" นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย คาดว่าภายในเดือน ต.ค. นี้ จะสามารถเสนอให้คณะกรรมการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment พิจารณาให้ผู้ใช้บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยที่ชำระสินค้ากับร้านค้าที่กำหนด มีสิทธิ์ลุ้นรับโชครางวัลใหญ่ 1 ล้านบาท ตามโครงการใช้บัตรเดบิต เพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยมีการใช้บัตรสวัสดิการมากขึ้น โดยคาดว่าจะเริ่มแจกโชคได้ตั้งแต่เดือน พ.ย.60 เป็นต้นไป
นอกจากนั้น นายสมขัย ยอมรับว่า พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ทำให้ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างต่าง ๆ ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจมีความเข้มข้นมากขึ้น จนอาจทำให้การเบิกจ่ายมีปัญหาบ้าง โดยในส่วนนี้กระทรวงการคลังจะมีการหารือร่วมกรมบัญชีกลางเพื่อสร้างความเข้าใจในการเบิกจ่ายตามกฎหมายใหม่ ซึ่งเชื่อว่าภายในปีงบประมาณ 2561 จะสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
“กฎหมายจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ ถือเป็นเรื่องใหม่ อาจจะยังมีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ไม่เข้าใจเรื่องการเบิกจ่ายอยู่บ้าง ต้องมีการสร้างความเข้าใจเพิ่มขึ้น หรือหากขั้นตอนในส่วนไหนที่มีปัญหา ก็จำเป็นต้องปรับแก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้การดำเนินงานเดินหน้าได้ง่ายขึ้น แต่ยืนยันว่าเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้เป็นเรื่องที่ดี เพื่อทำให้การเบิกจ่ายเป็นไปอย่างโปร่งใส เป็นธรรมมากที่สุดนั่นเอง" นายสมชัย กล่าว
ด้านนางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการติดตั้งเครื่อง EDC ทั่วประเทศแล้วกว่า 5.000 เครื่อง และจะติดตั้งเพิ่มเป็น 8,000 เครื่อง ให้ครบทุกตำบล ภายในสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม 2560 ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ และจะทยอยติดตั้งเครื่อง EDC ให้มีจำนวนเพียงพอเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิต่อไป
ทั้งนี้ การนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐในช่วงแรกอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวกและไม่สามารถใช้วงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งเพื่อให้ผู้มีสิทธิมีเวลาในการทำความรู้จักคุ้นเคยกับการใช้บัตรซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐและสวัสดิการอื่นๆ กรมบัญชีกลางจึงจะยกยอดวงเงินคงเหลือจากการซื้อสินค้าร้านธงฟ้าประชารัฐและสวัสดิการทุกประเภทของเดือนตุลาคม ให้ไปใช้ต่อได้ในเดือนพฤศจิกายน 2560 อีก 1 เดือน
สำหรับผู้มีสิทธิที่ยังไม่ได้ไปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถติดต่อขอรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ที่ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ตนเองได้เคยไปลงทะเบียนไว้ ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะเก็บรักษาบัตรของท่านไว้เป็นเวลา 1 ปี