พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน คาดว่าการลงทุนของรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานในปีงบประมาณ 2561 จะมากถึงระดับ 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณที่แล้ว และจะยังมีการลงทุนจากภาคเอกชนตามมาอีกจำนวนมาก เพื่อรองรับความมั่นคงยั่งยืนด้านพลังงานของประเทศ และให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยการเติบโตของธุรกิจพลังงานก็เชื่อว่าจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตด้วย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ
"การขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงพลังงานในปี 2561 นี้ ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย Energy 4.0 โดยให้ทุกหน่วยงานดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้ แต่ให้มีการต่อยอดไปสู่การเป็นผู้ผลิตนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ...คาดว่าเม็ดเงินลงทุน 3 การไฟฟ้า และปตท.ในปีงบประมาณนี้จะไม่มีเงินลงทุนถึง 1 ล้านล้านบาท และก็เชื่อว่าจะมีการลงทุนเอกชนตามมาอีกเป็นจำนวนมาก"พล.อ.อนันตพร กล่าวภายหลังมอบนโยบายการขับเคลื่อนภารกิจกระทรวงพลังงานปีงบประมาณ 2561
พล.อ.อนันตพร กล่าวอีกว่า ด้านราคาพลังงานในปัจจุบันยังนับว่าน่าเป็นห่วง จากความขัดแย้งของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และปัญหาภัยพิบัติ ส่งผลให้แนวโน้มราคาพลังงานเพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนของกระทรวงก็จะบริหารจัดการเพื่อให้เกิดสมดุลมากที่สุด โดยใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาดูแล ควบคู่ไปกับการขยับราคาพลังงานหากมีความจำเป็น ตลอดจนการสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และยอมรับกับผลกระทบที่ตามมา
สำหรับราคาอ้างอิงราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในเดือน ต.ค.นั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะพิจารณาในวันที่ 4 ต.ค.นี้ โดยราคา LPG ในเดือนนี้ขยับขึ้นมาที่ 590 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากระดับ 490 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือนที่แล้ว ซึ่งราคาอ้างอิงอาจจะมีการขยับขึ้นหากจำเป็นแต่ก็จะใช้ดำเนินการควบคู่กับการใช้เงินกองทุนน้ำมันฯเข้ามาดูแล
ส่วนการอุดหนุนราคา LPG ให้กับกลุ่มหาบเร่ แผงลอย ในระดับ 18.13 บาท/กิโลกรัม โดยบมจ.ปตท. (PTT) ซึ่งจะครบกำหนดในสิ้นปีนี้นั้น ก็จะหารือกับกระทรวงการคลังถึงแนวทางการช่วยเหลือต่อไปด้วย