ปลัดคลัง เผย GDP ไทยปีนี้มีแนวโน้มโตได้ 4% ลุ้นการลงทุนภาคเอกชนในช่วงที่เหลือของปี

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 16, 2017 10:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยทั้งปีมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวได้ถึง 4% โดยในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้ยังมีปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือ การลงทุนของภาคเอกชน เพราะที่ผ่านมามีออกมาตรการภาษีส่งเสริมการลงทุนในประเทศมาเสริม ขณะที่การลงทุนภาครัฐยังเดินหน้าได้ต่อเนื่อง โดยยังลุ้นในต่างจังหวัดจะมีการนำเม็ดเงินออกมาใช้ให้เกิดการลงทุนเพื่อให้เงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น

"ตัวเลขดังกล่าวเป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้ ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็จะทำให้ถึง...การลงทุนทั้งหมดในวันนี้ไม่น่าจะมีปัญหา"นายสมชัย กล่าว

ขณะที่ภาพรวมการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 61 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยที่ผ่านมา 3 กรมจัดเก็บภาษีมีการเสนอแนวทาวงการจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจะมีผลดีต่อรายได้ภาษีให้ปรับตัวดีขึ้นด้วย

ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนเรียกร้องรัฐบาลดำเนินมาตรการช็อปช่วยชาติอีก นายสมชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องขึ้นกับนโยบายของรัฐบาล โดยมีการหรือกับหลายฝ่ายและต้องหารือกับรมว.คลังด้วย เพราะต้องมองปัจจัยหลายๆ อย่างประกอบกัน เช่น ภาวะเศรษฐกิจตอนนี้เป็นอย่างไร มีความจำเป็นหรือไม่ แต่เท่าที่เห็นตอนนี้เศรษฐกิจก็ดูดี สะท้อนจากหลายหน่วยงานปรับตัวเลขอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นตอนนี้อาจมีความจำเป็นในการส่งเสริมให้เกิดธุรกรรมทางเศรษฐกิจในต่างจังหวุดและในภูมิภาคมากขึ้น ที่ผ่านมาองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมีเงินที่เหลือเกินดุลทุกปีเป็นจำนวนมาก อยากให้จังหวัดต่างๆ นำเงินในส่วนนี้ออกมา และหามาตรการในการใช้จ่ายตามต่างจังหวัดมากกว่า และให้ดูว่าในจังหวัดไหนควรจะส่งเสริมอย่างไร เช่น จังหวัดไหนเน้นด้านท่องเที่ยว จังหวัดไหนเน้นด้านการเกษตร ซึ่งที่ผ่านมามีการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดหลายแห่งแล้ว ซึ่งได้มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่มาตรการภาษีหนุนการท่องเที่ยว ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เคยเสนอเข้ามา ตอนนี้นิ่งแล้วเพราะหลักการที่ ททท.เสนอเป็นมาตรการภาษีท่องเที่ยวแบบทั่วไป แต่ทางกระทรวงการคลังต้องการให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน อยากให้ชุมชนท้องถิ่นได้ประโยชน์จากมาตรการมากกว่า

สำหรับข้อเสนอการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิดการรัฐนั้น นายสมชัย กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลมีนโยบายเรื่องนี้ลงมา คลังก็พร้อมกลับไปศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา มีประชาชนในต่างจังหวัดที่ได้วงเงินเพื่อการโดยสารรถไฟ และรถ บขส. 500 บาทไม่ได้มีการใช้บริการ จึงอาจต้องไปศึกษาความเป็นไปได้ในการโยกวงเงินมาใส่หมวดซื้อสินค้า อุปโภคบริโภคแทน แต่ตามวัตถุประสงค์อยากให้ตรงความต้องการประชาชนมากที่สุด และแม้ว่ามีการโยกวงเงินก็จะไม่ทำให้งบประมาณเพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ