พาณิชย์ เผย 1 ม.ค.-11 ต.ค.ปริมาณส่งออกข้าวสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 25.28%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 16, 2017 12:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เผยการส่งออกข้าวในปี 60 ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยข้าวไทยยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-11 ต.ค.60 การส่งออกข้าวตามใบอนุญาตส่งออกมีปริมาณ 8.97 ล้านตัน มูลค่า 132,754 ล้านบาท หรือ 3,891 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 25.28% และมูลค่าเพิ่มขึ้น 17.41% จากช่วงเดียวกันของปี 59 ที่มีปริมาณส่งออก 7.16 ล้านตัน มูลค่า 113,064 ล้านบาท หรือ 3,216 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนชนิดข้าวที่มีการส่งออกมากที่สุด คือ ข้าวขาวปริมาณส่งออก 3.91 ล้านตัน (43.61%) ข้าวนึ่ง ปริมาณการส่งออก 2.65 ล้านตัน (29.59%) และข้าวหอมมะลิไทย ปริมาณการส่งออก 1.68 ล้านตัน (18.73%)

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้จัดทำโครงการประชารัฐร่วมใจเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรชาวนาไทย ด้วยการช่วยเหลือค่าบริการรถเกี่ยวข้าวแก่เกษตรกรชาวนาที่จะเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวในปีการเพาะปลูก 2560/61 เดือน พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรชาวนามากขึ้น พร้อมเปิดตัวแอพพลิเคชั่น "จองรถเกี่ยว" เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารรถเกี่ยวข้าวเพื่อให้มีบริการอย่างเพียงพอ

กระทรวงฯ และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้เริ่มดำเนินโครงการดังกล่าวเมื่อปี 59 ที่บ้านดอนชี จังหวัดอุบลราชธานี ในการก่อสร้างท่อส่งน้ำทำให้เกษตรกรทุกครัวเรือนได้มีน้ำใช้สำหรับการเพาะปลูกในฤดูทำนาและปลูกพืชชนิดอื่นหลักเสร็จสิ้นการเก็บเกี่ยวข้าวและโครงการจัดซื้อรถเกี่ยวนวดข้าวจำนวน 10 คัน ซึ่งมอบให้กองทัพบกไปบริหารจัดการในการช่วยเหลือชาวนาที่ขาดแคลนรถเกี่ยวนวดข้าวโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้จากการติดตามการดำเนินงานของกองทัพบกโดยกรมกิจการพลเรือนทหารบกมีการนำรถเกี่ยวข้าวทั้ง 10 คัน ไปใช้ในการช่วยเหลือเกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวในปีการผลิต 2559/60 ตามแหล่งปลูกสำคัญทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคอื่นๆ

นอกจากนี้ ในช่วงเดือน ก.ค.-พ.ค.ที่ผ่านมาก็ได้นำรถเกี่ยวข้าวเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำช่วงที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงเห็นได้ว่าการดำเนินโครงการทั้งสองดังกล่าวสามารถช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาได้อย่างแท้จริงและเห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนนับว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง

สำหรับปีนี้กระทรวงฯ และพันธมิตรภาคเอกชนยังคงเล็งเห็นความจำเป็นของพี่น้องเกษตรกรชาวนาและให้ความสำคัญกับปัญหาการขาดแคลนรถเกี่ยวข้าวและค่าบริการรถเกี่ยวข้าวที่สูงในบางพื้นที่ในปีการเพาะปลูก 2560/61 ซึ่งจะเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวในเดือนพฤศจิกายนนี้ จึงได้จัดทำโครงการลดต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับคุณภาพข้าวส่งออกของเกษตรกร

โดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยยินดีให้การสนับสนุนเงินช่วยเหลือสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายค่าบริการรถเกี่ยวนวดข้าวแก่ชาวนาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวคุณภาพดีที่สำคัญเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยจะให้เงินช่วยเหลือค่ารถเกี่ยวนวดข้าวแก่ชาวนาในอัตราไร่ละ 200 บาท รายละไม่เกิน 10 ไร่ โดยได้ประสานสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยรวบรวมรายชื่อซึ่งมีจำนวนเกษตรกรชาวนาเข้ารับการช่วยเหลือทั้งสิ้น 5,363 ราย รวมพื้นที่เพาะปลูก 45,831.50 ไร่ ใน 12 จังหวัด (ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม ร้อยเอ็ด สุรินทร์ นครราชสีมา มหาสารคาม บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ และศรีสะเกษ) รวมเงินช่วยเหลือ 9,172,300 บาท จะโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ของชาวนาแต่ละรายโดยตรง รวมทั้งในปีนี้ได้ร่วมกับกองทัพบกโดยกรมกิจการพลเรือนทหารบกวางแผนจัดเตรียมความพร้อมรถเกี่ยวข้าว 10 คัน ตามที่ได้รับมอบจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวนี้

นอกจากนี้ กรมการค้าภายใน ร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดตัวแอพพลิเคชั่น “จองรถเกี่ยว" เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารรถเกี่ยวข้าวและแก้ไขปัญหาการขาดแคลนรถเกี่ยวข้าวในพื้นที่ที่มีปัญหาซ้ำซากในแต่ละปี โดยจะนำร่องใช้ในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพที่สำคัญของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี ได้แก่ อำเภอเดชอุดม อำเภอวารินชำราบ อำเภอเขื่องใน อำเภอพิบูลมังสาหาร อำเภอม่วงสามสิบ อำเภอน้ำขุ่น และอำเภอตระการพืชผล จะเปิดใช้วันที่ 18-19 ต.ค.60 และนำผลการดำเนินงานจากโครงการนำร่องดังกล่าวมาพัฒนาและปรับปรุงโครงการให้มีประสิทธิภาพ และขยายการให้บริการในแหล่งเพาะปลูกข้าวสำคัญทั่วประเทศต่อไปโดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิสำคัญของประเทศต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ