นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.21 บาท/ดอลลาร์ แข็ง ค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.30 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากต้องรอติดตามปัจจัยที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินใน ช่วงกลางสัปดาห์นี้ เช่น รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) รวมถึงการ แถลงตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) ของไทยในเดือน ต.ค.
"ทิศทางเงินบาทวันนี้คงอยู่ในกรอบแคบๆ ไปก่อน เพราะปัจจัยที่จะ move ค่าเงินเยอะๆ ยังต้องรอดูในวันพุธนี้ เช่น รายงานประชุม FOMC ส่วนในประเทศก็เป็นตัวเลข CPI" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.20-33.30 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้หากหลุดแนวรับที่ระดับ 33.20 บาท/ดอลลาร์ไป ก็ให้แนวรับถัดไปที่ 33.15 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.2450 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (27 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.32750% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (27 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.41135%
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.67 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 113.99 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1608 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1633 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ระดับ 33.290 บาท/ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (30 ต.ค.-3 พ.ย.)ที่ 33.15-33.45 บาท
ต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดน่าจะยังอยู่ที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟด (31 ต.ค.-1 พ.ย.) รวมถึงผลสรุปของผู้ที่จะ
มาเป็นประธานเฟดคนใหม่ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตรา
การว่างงาน ค่าจ้างแรงงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนี
ราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (PCE Price Index) ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอ
จับตาผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางอังกฤษด้วยเช่นกัน
- รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ได้หารือกับนายวิรไท สันติ
ประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อกำหนดกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในปี 61 ซึ่ง ธปท. ยืนยันว่าจะคงกรอบเงิน
เฟ้อไว้เท่าเดิม 1-4% หรือที่ 2.5% แต่กระทรวงการคลังไม่เห็นด้วยกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อดังกล่าว เพราะเห็นว่า ธปท.ไม่
สามารถบริหารกรอบเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายมา 3 ปี ติดต่อกันแล้ว จึงต้องการให้ ธปท. บริหารเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเพื่อ
สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กับการดูแลเสถียรภาพให้มากกว่านี้
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (27 ต.ค.)
ขานรับเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 3 ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตาผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่ง
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (27 ต.ค.) เนื่องจากวิกฤการเมืองในประเทศสเปน และความไม่แน่
นอนเกี่ยวกับผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่
ปลอดภัย
- ตลาดการเงินยังคงจับตาสถานการณ์การเมืองในสเปนอย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐสภาแคว้นกาตาลุญญาประกาศแยกตัว
เป็นเอกราชจากสเปนเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่วุฒิสภาสเปนมีมติอนุมัติให้รัฐบาลประกาศใช้มาตรา 155 แห่งรัฐ
ธรรมนูญ เพื่อยึดอำนาจการบริหารและปกครองจากแคว้นกาตาลุญญา หลังจากที่ได้ประกาศเอกราชจากสเปน
รายงานคืบหน้าล่าสุดระบุว่า ประชาชนชาวสเปนนับแสนได้ออกมาเดินขบวนในเมืองบาร์เซโลนา เมืองเอกของแคว้นกา ตาลุญญา เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนความเป็นหนึ่งเดียวของสเปน หลังรัฐสภาแคว้นกาตาลุญญามีมติประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) โดยผล
สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า คณะกรรมการ BOJ จะมีมติคงนโยบายการเงินเชิงรุก ด้วยการเดินหน้าซื้อ
พันธบัตรรัฐบาล โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระยะยาว ให้เคลื่อนไหวใกล้
ระดับ 0% นอกจากนี้ BOJ ยังมีมติมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1%
- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
(FOMC) ในวันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย. โดยมีการคาดการณ์ว่า คณะกรรมการ FOMC จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-
1.25% ในการประชุมครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า คณะกรรมการ FOMC อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม
เดือนธ.ค. หลังจาก FOMC ได้ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีที่ 2 พ.ย.นี้ ขณะที่
ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ระบุว่า BoE มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% จากปัจจุบันที่ระดับ 0.25% นอก
จากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ที่ประชุม BoE จะปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ
- นักลงทุนยังคงรอดูผู้ที่จะก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน
ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า โดยมีการคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศการตัดสินใจ
เลือกประธานเฟดคนใหม่ ก่อนที่เขาจะเดินทางเยือนประเทศต่างๆในเอเชีย ในวันที่ 3 พ.ย.นี้
- สหรัฐ และประเทศต่างๆในยุโรปจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ โดยเยอรมนีจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือน
ก.ย. และอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนหลายรายการ ซึ่งได้แก่ ความเชื่อมั่นภาค
ธุรกิจเดือนต.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนต.ค.
ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. และดัชนีภาคการผลิตเดือน ต.ค. จากเฟดดัลลัส
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--