"ดีดีพร็อพเพอร์ตี้"ระบุดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ Q3/60 ปรับเพิ่มขึ้น 13%yoy ดบ.ต่ำกระตุ้นแรงซื้อ ชี้คอนโดฯ โตสุด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 21, 2017 15:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) เว็บไซต์สื่อกลางซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เปิดตัวรายงานดัชนีอสังหาริมทรัพย์ในชื่อ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้ อินเด็กซ์ (DDproperty Property Index) ที่ระบุว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 60 อยู่ที่ระดับ 199 เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 จากไตรมาสที่ 2 สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงต้นปี สะท้อนถึงสัญญาณบวกในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยที่กำลังฟื้นตัวจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัวในกลุ่มตลาดระดับกลางไปจนถึงระดับล่าง เนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือที่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 3 ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ปรับเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และหากมองย้อนกลับไปในช่วงระยะเวลา 2 ปีพบว่า ดัชนีราคามีการเติบโตถึง 53%

“เรามองว่าแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในเมืองไทยมีทิศทางบวก และเชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ขาย และผู้ซื้อ โดยเฉพาะผู้ซื้อนั้น จะได้ประโยชน์จากการที่มีสินค้าในตลาดให้เป็นตัวเลือกหลากหลาย ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำและน่าจะรักษาระดับไปอีกระยะหนึ่ง" นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย ของ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าว

ดัชนีราคาคอนโดมิเนียมมีอัตราการเติบโตมากที่สุด เมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว โดยดัชนีราคาคอนโดฯ ในดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้ อินเด็กซ์ ช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 219 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 209

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ดัชนี ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้ อินเด็กซ์ สะท้อนให้เห็นว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในเขตจตุจักรมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้ามากที่สุดที่ 10% ตามมาด้วยเขตพระโขนงที่ปรับเพิ่มขึ้น 7%

นอกจากนี้ ปริมาณอุปทานบ้าน-คอนโดฯ ในกรุงเทพฯ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากชะลอตัวลงในช่วงต้นปี โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% ในไตรมาส 2 และเติบโตอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาในอัตรา 14%

ทั้งนี้ หากมองย้อนไปในรอบ 1 ปี จะพบว่าดัชนีอุปทานที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ทำสถิติการเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มทำการเก็บข้อมูลในปี 2558 โดยเพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เนื่องจากการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างคึกคักจากผู้ประกอบการนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2560

“ปัจจุบันปริมาณอุปทานสะสมค่อนข้างมาก เนื่องจากดีมานด์ที่ยังไม่ฟื้นตัวดี ในขณะที่เศรษฐกิจยังอยู่ในระยะฟื้นตัวอย่างช้าๆ และไม่มีมาตรการกระตุ้นตลาดใดๆ จากภาครัฐออกมา...ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งเลือกที่จะชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป"

ท่ามกลางหลากหลายปัจจัยเสี่ยง สิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมยังเดินหน้าต่อไปได้มาจากหลายปัจจัย ได้แก่ แผนยุทธศาสตร์การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนส่งของประเทศ พ.ศ. 2558-2565 การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% และคาดว่าจะคงไว้ที่ระดับดังกล่าวยาวไปจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมไปถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับราคาที่อยู่อาศัยโดยภาพรวมแล้ว ดีดีพร็อพเพอร์ตี้คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งที่ผ่านการอนุมัติและกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะมีส่วนผลักดันให้ราคาอสังหาฯ ในไทยเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ อุปสงค์ที่มาจากผู้ซื้อ-นักลงทุนชาวต่างชาติ ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของฝั่งรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังนั้น ได้มีแนวคิดที่จะดำเนินการแก้กฎหมายสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติจาก 30 ปี เป็น 50 ปีเพื่อจูงใจให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศมากขึ้น

“ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ตอนนี้ไม่เพียงแต่ดูสดใสสำหรับผู้ขายเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ซื้อด้วยทางเลือกที่หลากหลาย แม้ว่าราคาที่อยู่อาศัยจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับแคมเปญส่งเสริมการขายที่ผู้ประกอบการแข่งขันกันออกมาเพื่อดึงดูดใจผู้ซื้ออย่างเข้มข้น น่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้บริโภคในการเลือกซื้อบ้านที่ “ใช่" ของตน" นางกมลภัทร กล่าวทิ้งท้าย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ