พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงตัวเลขการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นทุกไตรมาส ซึ่งล่าสุดไตรมาส 3/60 ขยายตัวที่ 4.3% ถือว่า โครงสร้างใหญ่ของเศรษฐกิจค่อนข้างดีขึ้น เป็นผลจากการที่รัฐบาลแก้กฏระเบียบต่างๆ และเดินหน้าลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน แม้การเบิกจ่ายยังไม่สามารถทำได้เต็มที่ เนื่องจากติดขัดปัญหาบางอย่าง แต่หากสามาถเร่งการเบิกจ่ายได้เต็มที่จะเกิดกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกๆภาคส่วนด้วย และสิ่งสำคัญรัฐและประชาชนต้องร่วมมือกัน เพื่อให้เกิดการรายได้ครอบคลุมประชาชนทุกลุ่ม และทำให้รัฐบาลสามารถวางแผนการใช้จ่ายงบประมาณได้อย่างคุ้มค่า
“โครงสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็เหมือนเดิม ก็ร้องกันไปร้องกันมาอยู่แบบนี้ แล้วถามว่า ใครจะทำแบบนี้ ถ้ามาจากหลายที่หลายทาง จากหลายกลุ่มหลายฝ่ายใครจะทำแบบนี้ให้กับพวกเรา ผมถามแบบนี้กลับไปแล้วกัน เพราะทุกคนมีนโยบายของตัวเองกันหมด แต่รัฐบาลมีนโยบายเดินไปให้ได้ แต่รัฐบาลเลือกตั้งต้องทำแบบนั่นอยู่แล้ว แต่ผมไม่ได้ทำเพื่อให้ผมอยู่ แต่ทำเพื่อให้ประเทศมันอยู่ ให้คนไทยมีความสุขมากกว่าเดิม"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ขณะที่ในช่วงปลายปีนโยบายช็อปช่วยชาติจะมีส่วนช่วยให้ประชาชนใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าที่มีความจำเป็น ในเวลาเดียวกันก็จะทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ โดยไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะเม็ดเงินทางเศรษฐกิจก็จะกลับไปสู่พนักงงานของของธุรกิจนั้นๆเพื่อจ้างผลิต และสิ่งที่รัฐบาลคาดหวัง คือ ให้ทุกธุรกิจสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
“รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังจะรีดภาษีทุกอัน แต่ถ้าภาษีเก็บไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยในสิ่งที่ควรจะเป็น มันก็ยิ่งแย่ใหญ่ เพราะรัฐบาลไม่มีรายได้อื่น"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้พยายามสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชน ด้วยการเติบโตจากภายใน และจำเป็นต้องเรียนรู้ด้านดิจิตอล เพื่อนำประยุกธ์ในการทำธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันการซื้อขายผ่านออนไลน์ มีมูลค่าสูงขึ้นถึง 3 หมื่นล้านบาท
สำหรับของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนโดยเฉพาะการทำในสิ่งใหม่ๆเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนทุกคนทุกกลุ่มก็ถือเป็นของขวัญ