ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์ถัดไป (4-8 ธ.ค.) ที่ 32.50-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องติดตามสัญญาณเกี่ยวกับการผลักดันแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร, ดัชนี PMI ภาคบริการ, ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค., ยอดสั่งซื้อของโรงงาน สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนต.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามรายงานดัชนี PMI ของประเทศชั้นนำอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
สำหรับเงินบาทในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (27 พ.ย.-1 ธ.ค.) แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 31 เดือน ใกล้ๆ ระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนอ่อนค่าลงเล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงกดดันเงินดอลลาร์ฯ จากความไม่แน่นอนของแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยลดช่วงบวกลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่กลับมาได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีเกินคาด เช่น จีดีพีไตรมาส 3 ที่มีการปรับทบทวนเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีแรงซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ ก่อนผลการพิจารณาแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ของวุฒิสภา
อย่างไรก็ดี ในวันศุกร์ (1 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.68 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (24 พ.ย.)