พาณิชย์แก้ปัญหาปาล์มราคาตก-ล้นสต็อก นัดถกหน่วยงานพลังงานหนุนการใช้ในประเทศพร้อมกระตุ้นส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 6, 2017 15:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้กระทรวงพาณิชย์จะจัดประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ซึ่งมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์เป็นประธาน เพื่อหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มล้นสต็อกที่ปัจจุบันมีมากถึง 519,000 ตัน เบื้องต้นจะใช้มาตรการผลักดันทั้งการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบและกระตุ้นการใช้น้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศ

โดยในการหารือจะเชิญตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน, สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และกรมธุรกิจพลังงาน มาหารือถึงผลผลิตปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์ม และปริมาณความเหมาะสมของการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งหากมีการนำไปใช้มากขึ้นจะส่งผลทำให้ปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือในตลาดลดน้อยลง หรือดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบออกจากสต็อกและจะช่วยทำให้ราคาผลปาล์มดิบที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้น

"ส่วนการเร่งรัดการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ ขณะนี้ได้ให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) รวบรวมตลาดในการส่งออกน้ำมันปาล์มเสนอเข้ามาที่กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งขณะนี้กำลังเสนอตลาดส่งออกน้ำมันปาล์มดิบทยอยเข้ามาอยู่" นายบุณยฤทธิ์ กล่าว

สำหรับผลผลิตปาล์มน้ำมันปี 60 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คาดว่าจะมีปริมาณ 13.50 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 18.21% จากปี 59 เพราะการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ปลูกปาล์มและผลผลิตต่อไร่ ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณน้ำฝนมากขึ้น และเกษตรกรดูแลดีใส่ปุ๋ยมากขึ้น โดยล่าสุด ณ วันที่ 4 ธ.ค.60 ราคาผลปาล์มน้ำมัน (18%) กก.ละ 3.20-3.60 บาท และน้ำมันปาล์มดิบ กก.ละ 19.00 – 19.25 บาท ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบมาเลเซีย กก.ละ 19.99 บาท

"ราคาผลปาล์มสด และน้ำมันปาล์มดิบมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ ก.พ.เป็นต้นมา เป็นผลสืบเนื่องจากปริมาณผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มดิบมีมาก ประกอบกับโรงกลั่นมีสต็อกน้ำมันปาล์มคงเหลือมากกว่าความต้องการใช้ในแต่ละเดือน รวมทั้งภาวะการค้าน้ำมันปาล์มขวดชะลอตัว ทำให้ปริมาณการสั่งน้ำมันปาล์มจากโรงงานสกัดลดลง และซื้อราคาลดต่ำลง ส่งผลถึงผลปาล์มสดด้วย" อธิบดีกรมการค้าภายในระบุ

ส่วนกระแสข่าวว่ามีการนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองจากบราซิลและสหรัฐฯ โดยไม่เสียภาษี เพื่อนำมาสกัดน้ำมันบริโภคแข่งกับน้ำมันปาล์มนั้น ในปี 60 ไทยนำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองเพียงเล็กน้อย ส่วนเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้ามาใช้ผลิตอาหารสัตว์และแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารเป็นหลัก ซึ่งการนำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง ณ สิ้นเดือนก.ย.60 มีจำนวน 2.15 ล้านตัน เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันกับปี 59 ลดลง 2.17%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ