รัฐ-เอกชน เชื่อเศรษฐกิจไทยปีหน้าเติบโต หลังภาครัฐเร่งลงทุน-ศก.โลกฟื้นตัว แต่ยังห่วงกำลังซื้อ,ลุ้น SET ทำนิวไฮ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 15, 2017 09:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หน่วยงานรัฐและเอกชน ประสานเสียงเศรษฐกิจไทยปี 61 ยังเติบโตจากการลงทุนภาครัฐ จะช่วยหนุนให้การลงทุนของภาคเอกชนเริ่มกลับมาดีขึ้น ผลักดันด้วยแรงขับเคลื่อนของภาคการส่งออกที่ต่อเนื่อง ตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว และภาคการท่องเที่ยวที่ยังแข็งแกร่ง ด้านราคาพลังงานที่เชื่อว่าจะไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากนักก็จะเป็นผลบวกต่อต้นทุนการประกอบการ แต่ยังห่วงกำลังซื้อที่ยังไม่แข็งแรงเพียงพออาจทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ไม่มากนักในปีหน้า

ด้านตลาดทุนยังต้องลุ้นว่าดัชนี SET จะทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์จากระดับที่เคยทำได้ราว 1,789 จุด ได้หรือไม่ แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 61 ดัชนีหุ้นไทยจะยังสดใส จากทิศทางดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และเศรษฐกิจไทยที่ดี รวมถึงการบริโภคในประเทศที่เริ่มมีสัญญาณกลับมาดีขึ้นด้วย

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวผ่านวีดีโอ คอนเฟอเรนท์ ในงานสัมมนา"เศรษฐกิจไทย ปี 2018 ท่ามกลางศึกนอกและศึกใน"ที่จัดโดยสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อช่วงดึกวานนี้ โดยคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้จะเติบโตระดับ 3.9-4.0% และขยับเป็น 4.1% ในปีหน้า จากการจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะเงินลงทุนจากภาครัฐวิสาหกิจที่มากขึ้น และก็เชื่อว่าจะทำให้ภาคธุรกิจเกิดการลงทุนมากขึ้น อีกทั้งเมื่อร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีผลบังคับใช้ก็เชื่อว่าจะยิ่งทำให้เกิดการลงทุนมากขึ้นอีก และเมื่อจีดีพีเติบโตก็จะทำให้ผลประกอบการของภาคธุรกิจดีขึ้นด้วยเช่นกัน

ด้านนายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) กล่าวว่า ปัจจัยภายนอกในประเทศขณะนี้นับว่ามีสภาพคล่องตลาดค่อนข้างมาก และเศรษฐกิจโลกทั้งยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่น จีน เริ่มดีขึ้น ซึ่งเป็นที่ต้องจับตาดูต่อไปว่าทั้งสองดังกล่าวจะยังมีความต่อเนื่องในปีหน้าหรือไม่ ส่วนในประเทศนั้นได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ทำให้การส่งออกของไทยดีขึ้นด้วย แต่ในปีหน้าเชื่อว่าการส่งออกจะเติบโตได้น้อยลงจากปีนี้จากฐานที่ใหญ่ แต่ในด้านการท่องเที่ยวจะยังเติบโตได้ดี แต่ก็น่าจะยังน้อยกว่าปีนี้

"อีกอันหนึ่งที่เป็นแรงขับเคลื่อนคือการลงทุนของภาครัฐก็น่าจะเริ่มส่งผลให้ปีหน้า ก็จะส่งผลให้การลงทุนของภาคเอกชนซึ่งไม่โตมาเลยตลอด 10 ปีนี้จะเริ่มเติบโตได้ในปีหน้า แต่ที่ยังกังวลคือเรื่องการบริโภค เพราะประมาณ 30-40% ของประชากรไทยเป็นภาคเกษตร ซึ่งราคาพืชผลทางการเกษตรยังไม่ดี ทำให้กำลังซื้อยังไม่มา แม้เศรษฐกิจโตแต่คาดว่าคนที่จะได้ประโยชน์เป็นพวกบริษัทขนาดใหญ่ แต่เอสเอ็มอีไม่ได้โตมาก ก็จะยังทำให้กำลังซื้อยังไม่แข็งแรง เศรษฐกิจปีหน้าแม้จะดีกว่าปีนี้ แต่ไม่มาก"นายบุญทักษ์ กล่าว

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. (PTT) กล่าวว่า สถานการณ์จากปัจจัยภายนอกจะเป็นสิ่งที่เสริมต่อเศรษฐกิจของไทย ทั้งในส่วนของภาวะเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์พลังงานโลก โดยในส่วนของราคาน้ำมันในปีหน้าประเมินว่าจะค่อนข้างมีเสถียรภาพ ที่ราว 55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากระดับ 52 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในปีนี้ โดยราคาน้ำมันที่มีเสถียรภาพจะทำให้นักธุรกิจสามารถประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งที่ยังเป็นความท้าทายคือในด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ว่าจะช่วยลดต้นทุนได้มากน้อยแค่ไหน และจะสามารถปรับตัวได้ทันเหตุการณ์เพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ที่จะเข้ามาได้หรือไม่

ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงมีความน่าเป็นห่วง จากปริมาณการผลิตปิโตรเลียมที่จะทยอยลดลง และการผลิตจะยังมีความต่อเนื่องได้หรือไม่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายสัมปทานปิโตรเลียมที่กำลังจะหมดอายุในช่วง 5 ปีข้างหน้า ตลอดจนความชัดเจนการเกิดโรงไฟฟ้าใหม่ในอนาคตทั้งในส่วนของโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) กล่าวว่า แนวโน้มความต้องการใช้ซีเมนต์น่าจะดีในปีหน้า หลังเริ่มเห็นสัญญาณในช่วง 1-2 เดือนนี้ที่แนวโน้มดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนของภาครัฐในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งในปีหน้าคาดว่าจะมีงบในด้านนี้เติบโตกว่า 20% ตลอดจนการค้าชายแดนที่ยังไปได้ดี และภาคการเกษตร ที่น่าจะยังดี ก็จะทำให้เกิดการใช้จ่าย โดยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น ก็จะผลักดันให้การใช้ซีเมนต์ คอนกรีต และวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นตามมาเป็นลำดับด้วย

ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนี SET ในปี 61 ยังต้องจับตาว่าจะสามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้หรือไม่ หลังจากที่เคยทำได้เมื่อปี 37 ที่ราว 1,789 จุด แต่ก็มองว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ยังมีโอกาสสดใส จากเศรษฐกิจของประเทศที่ดีต่อเนื่องจากการส่งออกที่มีสัญญาณที่ดี และการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง ตลอดจนการบริโภคภายในประเทศที่เริ่มเห็นสัญญาณกลับมา ขณะที่อัตราดอกเบี้ยก็ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยมองเป้าดัชนีหุ้นไทยที่ระดับ 1,760 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ