(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิดหลุด 32 มาที่ 31.94 แข็งค่ากว่าภูมิภาคจากเงินไหลเข้า-ดอลล์อ่อน มองกรอบวันนี้ 31.85-32.00

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 12, 2018 14:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.94 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.01 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักหลังตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ธ.ค.ออกมาต่ำกว่าคาด ประกอบกับมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

"บาทแข็งค่ากว่าภูมิภาค ทำนิวโลว์ในรอบ 40 เดือนนับจาก ก.ย.57 หลังมีแรงเทขายดอลลาร์ ประกอบกับมี flow ไหลเข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้จะอยู่ระหว่าง 31.85-32.00 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง หลังหลุด 32.00 (บาท/ดอลลาร์) เริ่มลงมาเร็วมาก" นักบริหารเงิน กล่าว

THAI BAHT FIX 3M (11 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.11513% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (11 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.08005%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.9250 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 111.26 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 111.63 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.2048 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1947 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.0540 บาท/
ดอลลาร์
  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เตรียมหารือนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ
(ธปท.) ถึงปัญหาเงินบาทที่แข็งค่า
  • นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ปัจจัย
เสี่ยงที่มีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในขณะนี้ คือค่าเงินบาทที่มีการแข็งค่าผันผวน ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อการฟื้นตัวของ
เศรษฐกิจ โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าถึง 32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลทำให้มูลค่าทางเศรษฐกิจหายไป 1 แสนล้านบาท มีผลต่อ
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลดลง 0.7% ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ช้าลงจะส่งผลต่อการบริโภคในประเทศ รวมถึงความ
ไม่มั่นใจ ต่อการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ จึงต้อง การให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลรักษาค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ
  • นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ค่าเงินบาทของไทยที่แข็งค่ามากขึ้นใน
ขณะนี้ เป็นต้นทุนหลักที่ทำให้การส่งออกข้าวในปีนี้อาจไม่ดีมากนัก และค่าเงินบาทยังมีความผันผวนและคาดคะเนไม่ได้ ซึ่งทำให้ผู้ส่ง
ออกขาดทุนแม้จะทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนแล้วก็ตาม แต่ค่างวดยังแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ส่งออกมีต้นทุนในการทำ
ประกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และประสบภาวะขาดทุน โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทุก 1 บาท จะส่งผลต่อราคาข้าวให้แพงขึ้นประมาณ
10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ขณะที่ข้าวหอมมะลิราคาจะแพงกว่าคู่แข่งประมาณ 30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน
  • นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ในปี 61 คาดว่ามูลค่าการออกตราสาร
หนี้ภาคเอกชนระยะยาวที่ 690,000-720,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ออกเพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนด 270,000 ล้านบาท และ
ออกใหม่ 420,000 ล้านบาท และธนาคารอาจออกหุ้นกู้เพิ่มเสริมเงินกองทุนรับเกณฑ์บาเซิล 3 อีก 3 หมื่นล้านบาท ชะลอลงเล็กน้อย
เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 8.23 แสนล้านบาท
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า มาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนปี 60 ที่เปิดให้
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนำรายจ่ายการลงทุนในช่วงเดือนม.ค.-ธ.ค.60 มาหักค่าใช้จ่ายภาษีได้ 1.5 เท่า มีเอกชนสนใจลงทุน
มากถึง 10,411 ราย คิดเป็นวงเงิน 2.81 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กระทรวงการคลังคาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิหักภาษีวง
เงินลงทุนรวม 8,000 ล้านบาท
  • กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้มีทิศทางที่ดี มี
ความหวังมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีของภาครัฐ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบ
กับเศรษฐกิจโลกดีขึ้น ถือเป็นแรงหนุนสำคัญ ส่งผลให้ธุรกิจธนาคารซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดีขึ้นตามไปด้วย รวม
ทั้งการเติบโตของรายได้ ส่วนปัญหา หนี้เสีย (เอ็นพีแอล) คาดว่าจะดีขึ้นจะ ส่งผลดีต่อการตั้งสำรองของธนาคาร
  • วันนี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาประชุมเพื่อมอบนโยบายและติดตามการทำงาน ของ
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4
ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 11,000 ราย สู่ระดับ 261,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว
  • สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) หลังธนาคาร
กลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า ECB กำลังเตรียมถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลาย
ทางการเงิน ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ จากแรงกดดันของข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลัง ECB เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. โดยระบุว่า คณะกรรมการกำหนด นโยบายการเงินของ ECB จะทำการทบทวนแนวทางการสื่อสารของ ECB ในต้นปีนี้ และจะปรับใช้ถ้อยคำในแถลงการณ์ของการ ประชุมอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวมากขึ้น

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบ
กับสกุลเงินหลักๆ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค.ของสหรัฐปรับตัวลงเป็นครั้งแรกใน
รอบกว่า 1 ปี
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., ดัชนีราคาผู้
บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ