นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.97 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.92 บาท/ดอลลาร์
เย็นนี้เงินบาทอ่อนค่าจากช่วงเช้า ซึ่งเป็นผลจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นๆ ในขณะที่วันนี้ยังไม่ มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทมากนัก การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้จึงเป็นไปตามแรงซื้อแรงขายทั่วไปใน ตลาด
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.90-32.10 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นเงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.71 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 110.82 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2232 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2260 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,821.83 จุด ลดลง 0.83 จุด (-0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 76,866 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 530.13 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบวงเงินและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
2562 จำนวน 3 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาท จากวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2561 หรือเพิ่มขึ้น 3.4%
ทั้งนี้ได้ประมาณการจัดเก็บรายได้ไว้ 2.55 ล้านล้านบาท และเป็นงบประมาณขาดดุล 4.45 แสนล้านบาท เท่ากับปีงบประมาณ
2561 คิดเป็นสัดส่วน 2.6% ของ GDP ซึ่งการจัดทำกรอบงบประมาณดังกล่าวอยู่ภายใต้สมมติฐาน GDP ปี 62 เติบโต 3.7 -
4.7% อัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง 1.1-2.1% และมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 6.1% ของ GDP
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2561 หรือ
งบกลางปีวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ
ฐานราก ช่วยเหลือด้านแหล่งทุนสำหรับผู้มีรายได้น้อย และการปฏิรูปภาคโครงสร้างผลิตภาคเกษตร จำนวน 1 แสนล้านบาท และอีก
ส่วนเป็นรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลังอีก 49,641 ล้านบาท
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วประเทศมีแนวโน้มขยายตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายของ
BOJ ที่ 2% เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากมาตรการผ่อนคลายการเงินของ BOJ พร้อมระบุ
ว่า BOJ จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงรุก จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายอย่างยั่งยืน
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส คาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในยุโรป
นั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลกำไรและกระแสเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทยุโรปในระยะกลาง พร้อมคาดว่าภายในปี 2564 อัตรา
ดอกเบี้ยของธนาคารยุโรป (ECB) จะปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1% ส่วนดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ
2% และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3%
- กระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเดือนธ.ค.60 ลดลง 9.2% เมื่อ
เทียบรายปี สู่ระดับ 7.394 หมื่นล้านหยวน (1.149 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศตลอดทั้งปี
2560 เพิ่มขึ้น 7.9% แตะที่ระดับ 8.7756 แสนล้านหยวน
- สัปดาห์นี้สหรัฐฯ เตรียมรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้าน
แห่งชาติ (NAHB), สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์, ธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book, มหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือน ม.ค.