ปลัดพาณิชย์ ถกเวียดนามคลายข้อข้องใจอุปสรรคส่งออกรถยนต์ ยันไม่เลือกปฎิบัติ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 25, 2018 16:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงผลหารือกับนายเจิ่น กว๊วก แข๊ง รมช.อุตสาหกรรมและการค้า สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสเดินทางไปร่วมการประชุมคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน (HLTF-EI) ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า ได้ใช้โอกาสนี้แจ้งเวียดนามถึงข้อกังวลของภาคเอกชนไทยเกี่ยวกับการออกกฎระเบียบเกี่ยวกับเงื่อนไขการผลิต การค้า และการนำเข้ารถยนต์ (Decree 116) ที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์จากไทยไปเวียดนาม ที่เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดให้รถยนต์ที่นำเข้าทุกการขนส่ง (shipment) จะต้องตรวจไอเสียและความปลอดภัย และมีเอกสารรับรองจากหน่วยงานของประเทศผู้ส่งออก (Vehicle Type Approval Certificate) โดยเวียดนามขอให้มั่นใจว่าเวียดนามใช้ระเบียบนี้เพื่อควบคุมความปลอดภัยของรถยนต์จากทุกประเทศ และพร้อมที่จะพิจารณายอมรับหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะพิจารณานำระบบการออกเอกสารรับรองข้างต้นด้วยตัวเองของภาคเอกชนมาใช้ (Self-Certification) รวมทั้งเวียดนามไม่ได้เลือกปฏิบัติระหว่างรถยนต์ของเวียดนามและรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างชาติ เนื่องจากรถที่ผลิตในเวียดนามเองก็ต้องผ่านการทดสอบทุกล้อตเช่นกัน

ทั้งนี้เวียดนามยินดีที่จะสร้างความกระจ่างเพิ่มเติม พร้อมจัดส่งเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ไทยได้คลายข้อสงสัยทั้งหมด ทั้งสองฝ่ายจึงเห็นพ้องที่จะพิจารณาว่าในระยะยาวจะจัดทำข้อตกลงยอมรับร่วม (MRA) ระบบการตรวจสอบรถยนต์ของสองประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกันในอนาคต

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ยังได้สอบถามถึงระเบียบใหม่ของเวียดนาม (Decree 125) ซึ่งกำหนดอัตราภาษีสินค้าหลายรายการ เช่น รถยนต์ใช้แล้ว เครื่องจักร ชิ้นส่วนยานยนต์ และการประกาศอัตราภาษีนอกโควตาในบางกลุ่มสินค้า ที่เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมาเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงข้อผูกพันการลดภาษีของเวียดนามภายในอาเซียน ซึ่งเวียดนามยืนยันว่าระเบียบดังกล่าวไม่ได้บังคับใช้กับประเทศสมาชิกอาเซียน เอกชนไทยจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงความร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและการค้า และขยายผลของความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ทั้งสองประเทศจะเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง ตลอดจนการร่วมกันขจัดอุปสรรคทางการค้า เพื่อผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างไทยและเวียดนามให้สามารถบรรลุเป้าหมายการค้าซึ่งตั้งไว้ที่ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563

เวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 7 ของไทยในโลก และอันดับที่ 4 ของไทยในกลุ่มอาเซียน รองจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยในปี 2560 การค้ารวมไทย-เวียดนาม มีมูลค่า 16,635 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่ ผ่านมาร้อยละ 20.2 โดยไทยส่งออกสินค้าไปเวียดนามรวมมูลค่า 11,662 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.7 และนำเข้าสินค้าจากเวียดนามรวมทั้งสิ้น 4,973 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องดื่ม เครื่องจักรกลและส่วนประกอบเครื่องจักร เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ