นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.26 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า เล็กน้อยจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ 31.24 บาท/ดอลลาร์
"ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นมาได้เมื่อเทียบกับทุกสกุล เนื่องจากมีแรงซื้อคืนหลังโดนเทขายมาทั้งสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานยังไม่มี อะไรใหม่ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคือจีดีพีไตรมาส 4/60 ของสภาพัฒน์ และคืนวันพุธจะมีการรายงานข้อมูลบันทึกการประชุมของ FOMC"นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินคาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.20-31.35 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (16 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.80381% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (16 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.96260%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.10 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 106.00 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2431 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.2521 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.2370 บาท/
ดอลลาร์
- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย ไตรมาส
4/60
- ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้ (19-23 ก.พ.) ที่ 30.70-31.40 บาท/
ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตาอยู่ที่รายงานตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 4/2560 และข้อมูลการส่งออกเดือน ม.ค.61
ของไทย ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง และดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ (เบื้องต้น)
เดือน ก.พ. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอประเมินสัญญาณเกี่ยวกับจังหวะดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จากบันทึกการประชุมเฟดเมื่อเดือน ม.ค.
และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ตลอดจนรายงานดัชนี PMI ของประเทศสมาชิกยูโรโซน และญี่ปุ่นในระหว่างสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
- 'คลัง' กระตุ้นแบงก์ชาติเพิ่มมาตรการดูแลบาทแข็ง ผลักดันกองทุนของรัฐ บริษัทประกันภัย ลงทุนต่างประเทศ ลด
แรงกดดันค่าเงิน
- ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่าอัตราการเติบโตของ
เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ของปี 2560 คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่า 4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)นับว่าเศรษฐกิจไทย
ฟื้นตัวแล้วและเป็นการฟื้นตัวตามศักยภาพของเศรษฐกิจ ขณะที่คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัว 4.2% แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือการ
แข็งค่าของค่าเงินบาท
- อุปนายกสมาคม ฟินเทคประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้น่าจะได้เห็นเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) ที่เกี่ยวข้องกับ
การปล่อยกู้ (เลนดิ้ง) เกิดมากขึ้นในไทย โดยคาดว่าน่าจะมีให้เห็นกันมากในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป
- วงการเงินดิจิทัล เผยมี บจ. สนใจออกขาย "ไอซีโอ" อีกกว่า 20 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจก่อสร้าง-พลังงาน
หวังระดมเงินไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนที่เตรียมออกขายปีนี้มี 4-5 บริษัท อยู่ในกลุ่มไอที เผยเตรียมตัวมานานแล้ว แนะผู้ลงทุน
อ่าน "ไวท์เปเปอร์" ให้ชัดเจน
- คลังหนุนผุด "แบงกิ้งเอเยนต์" ชี้เป็นเรื่องดีเพิ่มทางเลือกเข้าถึงแหล่งเงินในระบบให้ประชาชน มองสถาบันการเงิน
ทั้งรัฐ-เอกชนถึงเวลาปรับตัวเพื่อลงแข่งขันในธุรกิจ ไม่ปิดกั้นหาก เซเว่น-อีเลฟเว่นสนใจร่วมแจม ด้าน ธปท.เต้นแจง "แบงกิ้ง
เอเยนต์" ไม่ใช่การอนุญาตตั้งธนาคารพาณิชย์ใหม่
- ก.ล.ต.เตือนการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอาจมีคนฉวยโอกาสเอาเทคโนโลยีใหม่มาบังหน้าหลอกลวงประชาชน ชี้ถึงมี
เกณฑ์ออกมากำกับก็ช่วยลดความเสี่ยงได้บางส่วน ด้านคลังยืนยันไม่นิ่งนอนใจออกแนวทางดูแล
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 9.7% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 1.33 ล้านยูนิต ซึ่ง
เป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 หรือในรอบกว่าหนึ่งปี และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ราว
1.24 ล้านยูนิต
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นของสหรัฐในเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 99.9 จากระดับ
เดือนม.ค.ที่ 95.7 ซึ่งเป็นสถิติที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีจะอยู่ที่ 95.3 โดยได้ปัจจัยหนุนจากความแข็ง
แกร่งของตลาดแรงงาน และเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซขึ้น 1 ขึ้น สู่ระดับ B จากระดับ B- โดยระบุว่า
เศรษฐกิจกรีซและยอดเกินดุลงบประมาณของรัฐบาลกรีซ มีการขยายตัวดีขึ้น ขณะที่ความเสี่ยงด้านการเมืองของกรีซเริ่มลดน้อยลง ซึ่ง
ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
- ตลาดการเงินจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือ
ตรงกับช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.พ.