เมืองรอง..พระเอกใหม่การท่องเที่ยวไทยผลักดันกระจายรายได้สู่ฐานราก

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 23, 2018 11:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แนวคิดการท่องเที่ยวเมืองรองถูกผลักดันให้เกิดขึ้นตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยกำหนดให้ 55 จังหวัดเป็นเมืองรองของการท่องเที่ยว ได้แก่ นครศรีธรรมราช อุดรธานี เชียงราย ลพบุรี พิษณุโลก สุพรรณบุรี อุบลราชธานี นครนายก หนองคาย สระแก้ว เลย ตาก ตราด เพชรบูรณ์ จันทบุรี มุกดาหาร นครสวรรค์ ราชบุรี สมุทรสงคราม บุรีรัมย์ ชัยภูมิ พัทลุง ตรัง ศรีสะเกษ ปราจีนบุรี สตูล ชุมพร สุโขทัย สุรินทร์ สกลนคร ลำพูน นครพนม อุตรดิตถ์ ระนอง ลำปาง ร้อยเอ็ด แม่ฮ่องสอน พิจิตร แพร่ ชัยนาท น่าน อ่างทอง มหาสารคาม กำแพงเพชร อุทัยธานี นราธิวาส ยะลา พะเยา บึงกาฬ กาฬสินธุ์ ยโสธร สิงห์บุรี หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ และปัตตานี หรือเขตพื้นที่อื่นใดที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากำหนด

แนวความคิดกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งนางกอบกาญจน์ วัฒนาวรางกูร นั่งบัญชาการงานกระทรวงท่องเที่ยว ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาปกรณ์ รองนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ทันจะเป็นรูปเป็นร่างก็มีอันต้องพ้นจากตำแหน่งไปทั้งสองคน หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจดึงนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีต รมว.ท่องเที่ยวสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ เข้ามาเสียบแทน

สาเหตุการดึงอาจารย์"วีระศักดิ์"มาขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในครั้งนี้ แหล่งข่าววงในให้ข้อมูลว่าโจทย์ใหญ่คือความคาดหวังที่จะให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯกระจายรายได้สู่ชุมชนให้ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะแม้ไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวใกล้แตะ 3 ล้านล้านบาท แต่เนื้อแท้ที่จะเห็นว่าเข้าถึงชุมชนมีน้อยมาก

ประกอบกับ ในช่วงที่ผ่านมาอาจารย์"วีระศักดิ์"เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเรื่องของการท่องเที่ยวชุมชน เพราะนั่งเป็นประธานกรรมการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.ที่ร่วมพัฒนาโครงการท่องเที่ยวชุมชนนำร่องต่างๆ จนมีกว่า 30 กว่าแห่งทั่วประเทศ แถมยังมีความรู้เรื่องตลาดไมซ์ จากการนั่งเป็นประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ อีกด้วย

เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศนโยบายที่มุ่งแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ซึ่งการท่องเที่ยวถือเป็นส่วนสำคัญ โดยรัฐบาลมีนโยบายที่จะมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรอง หรือระดับชุมชน ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวในแหล่งชุมชน หรือหมู่บ้านโอทอปเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายรายได้ให้กับประชาชนในท้องที่ โดยได้ออกมาตรการภาษีมาสนับสนุน โดยให้นำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยว เช่น ที่พัก ที่ใช้จ่ายตามจริงสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561-31 ธันวาคม 2561

ด้านนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะทำให้เกิดรายได้ที่กระจายไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองรอง ซึ่งรากหญ้า ก็จะได้ประโยชน์จากการมีรายได้เพิ่มขึ้น

ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ สุภัสสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ระบุว่า จากมาตรการภาษีดังกล่าว ททท.เปิดตัวแคมเปญด้านการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยกระตุ้นการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ภายใต้แคมเปญ Amazing Thailand Go Local เที่ยวท้องถิ่นไทย ชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต เพื่อกระจายโอกาสในเชิงพื้นที่ คือ การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่เมืองรองและชุมชนไม่น้อยกว่า 10 ล้านคนสำหรับเป้าหมายที่ต้องเริ่มทำคือการสร้างให้เกิดการรับรู้ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ชุมชน ซึ่งสัดส่วนนักท่องเที่ยวระหว่างเมืองหลักกับเมืองรองจะอยู่ที่ 70% ต่อ 30% และด้านรายได้อยู่ที่ 90% ต่อ 10% ก็จะต้องปรับสัดส่วนให้มีความสมดุลมากขึ้น โดยตั้งเป้าอย่างน้อยประมาณ 10 ล้านคน ที่จะต้องนำเข้าเมืองรอง ซึ่งจะมีกิจกรรมเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างเมืองรองและเมืองหลัก

ผู้ว่าฯ ททท.คาดว่าปี 61 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไทย 36-37 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ทำสถิติสูงสุดด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 35 ล้านคน และสร้างรายได้กว่า 2.7 ล้านล้านบาท

ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 61 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยน่าจะมีประมาณ 37.64-37.99 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวน่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1.97-2.01 ล้านล้านบาท ส่วนไทยเที่ยวไทยน่าจะอยู่ที่ 159.2 -160.4 ล้านคน-ครั้ง จากปี 60 ที่อยู่ที่ 153 ล้านคน-ครั้ง ขยายตัวประมาณ 4-5%

ส่วนจะทำได้ตามเป้าหรือไม่ คงต้องเอาใจช่วยภาคการท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นพระเอกในการดึงรายได้เข้าประเทศไม่น้อยไปกว่าการส่งออกเลยทีเดียว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ