นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.21 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เปิดตลาดเช้าที่ระดับ 31.24 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.20-31.25 บาท/ดอลลาร์ ยังไม่มีปัจจัยที่ ชัดเจน ตลาดรอดูผลประชุม FOMC ในช่วงกลางสัปดาห์
"บาทแข็งค่าจากช่วงเช้า แต่ยังไม่มีปัจจัยที่ชัดเจน ตลาดรอผลประชุม FOMC กลางสัปดาห์" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 31.15-31.30 บาท/ดอลลาร์
- เงินเยนอยู่ที่ 106.01 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.82 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.2287 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2264 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,799.79 จุด ลดลง 11.97 จุด, -0.66% มูลค่าการซื้อขาย 51,369.55 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,029.81 ล้านบาท (SET+MAI)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-
31.45 ต่อดอลลาร์ ปัจจัยชี้นำสำคัญสัปดาห์นี้จะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 20-21 มีนาคม ซึ่งคาดว่าจะมีมติ
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ขณะที่นักลงทุนจะจับตาการประเมินภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐฯ รวมถึงประมาณการ
อัตราดอกเบี้ยนโยบายจากเจ้าหน้าที่ของเฟด (Dot Plot) หากเฟดคงประมาณการสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปี 2561 ไว้ที่
สามครั้งตามที่เคยระบุไว้ในการประชุมเมื่อเดือนธันวาคม2560 เงินดอลลาร์จะเผชิญแรงขายทำกำไร ในทางกลับกัน หากรายงาน
ฉบับใหม่ส่งสัญญาณว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเร่งดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น นอกจากนี้ ตลาดจะให้ความสนใจ
กับการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) ช่วงท้ายสัปดาห์นี้เช่นกัน
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มั่นใจว่าด้วยผลจากโครงการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่รัฐบาลกำลัง
ดำเนินการอยู่และที่จะขับเคลื่อนต่อไปอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องในอีก 3-4 ปีข้างหน้า โฉมหน้าเศรษฐกิจไทยจะเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ใน
ระดับการพัฒนาที่สูงขึ้นและพร้อมเป็นศูนย์กลางการลงทุน การคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริงโดย
เฉพาะอย่างยิ่งในอนุภาค CLMVT แห่งนี้
- นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวถึงแผนการลงทุนในปี 2561 มี 44 โครงการ กรอบวงเงินรวม
2.02 ล้านล้านบาท โดยตั้งเป้าสิ้นปีงบประมาณ 61 จะมี 23 โครงการที่ประกวดราคาแล้วเสร็จ เริ่มก่อสร้างและพร้อมเปิดบริการ
ได้ มูลค่ารวมกว่า 1.1 ล้านล้านบาท
- 14 ธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจขนาดใหญ่ 7 แห่ง ร่วมออกบริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบ
Blockchain ถือว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกที่มีการบริการนี้ โดยมั่นใจว่าเมื่อได้มีการผ่านการทดสอบและนำออกมาใช้ในราว
ไตรมาส 3 ของปีนี้แล้วจะทำให้เกิดความคล่องตัวแก่ภาคธุรกิจ เพราะมีขั้นตอนการดำเนินงานที่สะดวกและรวดเร็วกว่าการออกเป็น
เอกสารที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีความปลอดภัยต่อการปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งเชื่อว่าภาคธุรกิจที่เห็นประโยชน์ในส่วนนี้จะหันมาใช้
บริการหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์บนระบบ Blockchain กันมากขึ้นในอนาคต
- นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ธปท. อยู่ระหว่างการร่วมมือกับ
ธนาคารพาณิชย์ในการศึกษาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain มาใช้กับการออกพันธบัตร เพื่อให้สามารถลดระยะเวลาการ
ออกพันธบัตรของธนาคารพาณิชย์ จากเดิมที่ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 15 วัน ลดลงเหลือเพียง 2 วัน
- สมาคมการค้าของสหรัฐ 45 แห่งเรียกร้องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ล้มเลิกแผนเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศ
จีน แต่ขอให้ร่วมมือกับชาติต่างๆ เพื่อกดดันจีนยุตินโยบายที่ไม่เป็นธรรมกับบริษัทต่างชาติแทน
- บิตคอยน์ร่วงลงราว 7% เกือบแตะระดับ 7,000 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ หลังจากสำนักข่าวสกายนิวส์ของอังกฤษรายงาน
ว่า ทวิตเตอร์อาจระงับการโฆษณาสกุลเงินดิจิทัล
- นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 20-21 มี.ค. ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้
เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟด
จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3
ในเดือนก.ย.
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--