กบง.เห็นชอบขยายเวลาจ่ายไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน 77.9 MW เป็นภายในปี 64 จากเดิมปี 62

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 27, 2018 10:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) มีมติเห็นชอบการขยายกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) สำหรับโครงการกำจัดขยะมูลฝอยเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวม 8 พื้นที่ 12 โครงการ จำนวนรับซื้อรวม 77.9 เมกะวัตต์ (MW) จากเดิมที่กำหนดวันจ่ายไฟฟ้าภายในปี 2562 เป็นภายในปี 2564 โดยยังคงอัตรารับซื้อไฟฟ้าเดิมแต่ระยะรับซื้อให้สิ้นสุด ภายในปี 2572 สำหรับโครงการประเภทหลุมฝังกลบ และปี 2582 สำหรับโครงการประเภทการจัดการขยะแบบผสมผสาน เพื่อให้มีระยะเพียงพอสำหรับการดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีขั้นตอนการดำเนินการทางกฎหมายร่วมทุนและกฎหมายสิ่งแวดล้อม ที่จำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย

ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมนโยบายรัฐบาลในการบริหารจัดการขยะของประเทศ และมีกระบวนการร่วมทุนที่ถูกต้อง รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้พัฒนาโครงการมีเวลาในการชี้แจงโครงการและบริหารจัดการ การมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อให้โครงการสามารถพัฒนาไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

อนึ่ง ปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) อยู่ระหว่างการรับซื้อไฟฟ้าตามโครงการจัดหาไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FIT) เพื่อรับซื้อไฟฟ้าจำนวนประมาณ 78 เมกะวัตต์ โดยเปิดให้ยื่นคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้า ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.60-30 มี.ค.61 และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกภายในวันที่ 30 เม.ย.61

นอกจากนี้ที่ประชุม กบง. ยังได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินการแผนอนุรักษ์พลังงานพ.ศ. 2558-2579 (EEP 2015) โดยความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผน EEP 2015 ณ ปัจจุบัน (ไม่รวมมาตรการภาคขนส่ง) ซึ่งมีเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงาน ปี พ.ศ. 2560 อยู่ที่ 703 พันตันเทียบเท่าน้ำมันดิบ (ktoe) โดยกระทรวงพลังงาน ได้ดำเนินมาตรการหลักภายใต้แผน EEP 2015 ซึ่งมีผลการอนุรักษ์พลังงาน ถึงไตรมาสที่ 4 ปี 2560 คิดเป็นผลรวมประมาณ 713.42 ktoe หรือคิดเป็นร้อยละ 101.48 ของเป้าหมายปี พ.ศ. 2560

ส่วนมาตรการการอนุรักษ์พลังงานภาคขนส่ง (EE7) ที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการ ECO-Sticker ที่จำนวนรถใหม่ยังไม่เป็นไปตามเป้า และกรณีของการขนส่งระบบราง โดยเฉพาะรถไฟทางคู่ การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงยังไม่มีการรับรู้ผลประหยัดพลังงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ