ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.36 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาคจากแรงซื้อดอลล์ นลท.รอดูตัวเลขส่งออกของไทย-ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 23, 2018 09:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.36 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น วันศุกร์ที่ปิดตลาดอยู่ที่ 31.33 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทอ่อนค่า ล่าสุดอยู่ที่ 32.38 บาท/ดอลลาร์ เป็นผลมาจากมีแรงซื้อดอลลาร์ในตลาดโลก หลังอัตราผลตอบแทน พันธบัตรระยะ 10 ปีของสหรัฐพุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเป็นไปตามสกุลอื่นในภูมิภาค" นัก บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน มองว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวไว้ระหว่าง 31.30-31.45 บาท/ ดอลลาร์

"วันนี้จะมีตัวเลขส่งออกและนำเข้าของกระทรวงพาณิชย์ และคืนนี้จะมีการรายงานตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของ สหรัฐ"นักบริหารเงิน กล่าว

THAI BAHT FIX 3M (20 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.16927% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.25471%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 107.82 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 107.65 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.2275 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.2297 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.2580 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (23-27 เม.ย.) ที่ 31.10-31.40 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศ น่าจะอยู่ที่ข้อมูลการส่งออกของไทยในเดือนมี.ค.

ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่อาจเป็นจุดสนใจของนักลงทุน ได้แก่ ความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และ จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ตัวเลขดัชนี PMI เดือนเม.ย. ยอดขายบ้านมือสอง ยอด ขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ. และตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาส 1/2561 (advanced report) นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูล PMI เดือนเม.ย. (เบื้องต้น) ของอีกหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน

  • ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรกประจำปี 2561 ที่ประกาศออกมาในสัปดาห์ที่แล้ว โดยธนาคาร
พาณิชย์ 11 แห่งมีกำไรสุทธิรวม 54,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 53,655 ล้านบาท โดย
ธนาคารไทยพาณิชย์ยังคงทำกำไรสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งที่ 11,364 ล้านบาท อันดับ 2 ธนาคารกสิกรไทย 10,765 ล้านบาท และ
อันดับ 3 ธนาคารกรุงเทพ 9,004 ล้านบาท
  • ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ที่ขึ้น 5.2% ในไตรมาสแรกจาก 4.8%
เมื่อสิ้นปี มาจากลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก จากสินเชื่อที่เร่งตัวมาหลายปี ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจธุรกิจ และเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)
หรือตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 2561 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นอยู่ร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่อยู่ร้อยละ 3.9 จากภาคการส่งออก
และการท่องเที่ยวที่ยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ประกอบกับการเร่งใช้จ่ายของภาครัฐทั้งการลงทุนและเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจรวมทั้ง
ปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
  • ธปท.หวั่นกดดันแบงก์ลดดอกเบี้ยเอสเอ็มอี กระทบผู้ประกอบการ รายย่อยเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น เหตุแบงก์เน้นปล่อย
เฉพาะรายที่เสี่ยงต่ำ "วิรไท" หนุนธนาคารทำระบบเก็บข้อมูลเพื่อใช้เป็นฐานการพิจารณาปล่อยกู้ เชื่อช่วยแบงก์ลดต้นทุน ส่งผลต่อ
ดอกเบี้ยที่ลดลง เผยแนวโน้ม ดอกเบี้ยเอสเอ็มอีปล่อยใหม่ทยอยลดลง ขณะ 5 แบงก์ใหญ่หั่นดอกเบี้ยเหลือ 5% คงที่ 2 ปี ให้กับเอส
เอ็มอีที่ทำบัญชีเดียว
  • เหตุการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมือง ดันราคาทองคำพุ่งขึ้นในระยะสั้น ถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนควรทำกำไร หากมี
ความแน่นอนสูงและสถานการณ์คาดการณ์ยาก นักลงทุนจะถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง อาจช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับราคา
ทองคำในระยะยาวได้
  • การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กฟผ.มีความกังวลด้านความมั่นคงระบบผลิตไฟฟ้า
ภาคใต้ในปี 2563 ที่มีความเสี่ยงจะ ไม่เพียงพอ เนื่องจากความต้องการ ใช้ไฟภาคใต้สูงสุด (พีก) เมื่อปี 2560 อยู่ที่ 2,642
เมกะวัตต์ ขณะที่โรงไฟฟ้าหลักคือจะนะและขนอมผลิตไฟฟ้า ได้จริง 2,024 เมกะวัตต์
  • ตลาดยังคงจับตาสถานการณ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดกระทรวงพาณิชย์จีน (MOC) ได้
ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ทางการจีนได้รับข้อมูลที่ระบุว่า นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ มีความประสงค์ที่จะ
เดินทางเยือนจีน เพื่อหารือในประเด็นเศรษฐกิจและการค้า
  • ประธานองค์การการค้าโลก (WTO) ได้เรียกร้องให้เหล่าผู้กำหนดนโยบายการเงินทั่วโลกหันมายกระดับความร่วมมือ
ผ่านทาง WTO เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าในประเทศกลุ่มเศรษฐกิจรายใหญ่
  • ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการเอเชียและแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ความตึงเครียด
ด้านการค้าที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง
  • นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ และธนาคารกลางญี่ปุ่น

(BOJ) ในวันศุกร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ