รัฐบาลเคาะกรอบวินัยการเงินการคลังประเทศ ตั้งงบกลางไม่เกิน 3.5% ของงบประจำปี-กำหนดหนี้สาธารณะไม่เกิน 60% ของจีดีพี

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 24, 2018 10:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานวานนี้ (23 พ.ค.) ได้มีมติในเรื่องเกี่ยวกับกรอบวินัยการเงินการคลังที่สำคัญ โดยได้กำหนดสัดส่วนต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่

1.สัดส่วนสำหรับใช้เป็นกรอบวินัยในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ประกอบด้วย สัดส่วนงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต้องไม่น้อยกว่า 2.0% แต่ไม่เกิน 3.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี, สัดส่วนงบประมาณเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐซึ่งรัฐบาลรับภาระต้องไม่น้อยกว่า 2.5% แต่ไม่เกิน 3.5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยในส่วนของงบประมาณเพื่อการชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายในการกู้เงินของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐซึ่งรัฐบาลรับภาระต้องตั้งตามภาระที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีงบประมาณนั้น, สัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายข้ามปีงบประมาณไม่เกินอัตรา 10% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี และสัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายงบประมาณรายจ่ายไม่เกินอัตรา 5% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี

2.สัดส่วนสำหรับใช้เป็นกรอบวินัยในการมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐดำเนินงานซึ่งรัฐบาลรับภาระที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ให้ โดยกำหนดอัตราการชดเชยค่าใช้จ่าย หรือการสูญเสียรายได้ของหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายต้องมียอดคงค้างรวมกันไม่เกินอัตรา 30% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี

3.สัดส่วนเพื่อใช้เป็นกรอบวินัยในการบริหารหนี้ ประกอบด้วย สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต้องไม่เกิน 60%, สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณต้องไม่เกิน 35%, สัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด ต้องไม่เกิน 10%, สัดส่วนภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้จากการส่งออกสินค้าและบริการ ต้องไม่เกิน 5%

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้จัดทำแผนการคลังระยะปานกลาง โดยมีเป้าหมายการคลัง คือ "การจัดทำงบประมาณแบบสมดุล" ทั้งนี้ รายละเอียดในแผนการคลังระยะปานกลางประกอบด้วย สถานะและประมาณการเศรษฐกิจ สถานะและประมาณการการคลัง สถานะหนี้สาธารณะ และภาระผูกพันทางการเงินการคลังของรัฐบาล โดยแผนการคลังระยะปานกลางดังกล่าวจะต้องนำไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาการจัดทำกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี และให้หน่วยงานของรัฐนำไปใช้ประกอบการพิจารณาจัดเก็บหรือหารายได้ การจัดทำงบประมาณ และการก่อหนี้ของหน่วยงานของรัฐต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ