เอ็กซิมแบงก์ เล็งขอเพิ่มทุนอีก 5 พัน-1 หมื่นล้านบาทไว้ช่วยผู้ส่งออก

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 24, 2009 16:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมขอเสนอกระทรวงการคลังขออนุมัติเพิ่มทุนให้อีก 5,000-10,000 ล้านบาท เพื่อจัดทำโครงการสินเชื่อให้ผู้ประกอบการต่างประเทศ เพื่อนำเข้าสินค้าไทย(Buyer Credit) เนื่องจากปัจจุบันพบว่า ผลจากเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ผู้ซื้อสินค้าในต่างประเทศ ไม่มีกำลังนำเข้าสินค้าจากไทย ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทย

สำหรับวงเงินเพิ่มทุนครั้งนี้ ธนาคารจะนำไปสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ซื้อสินค้าในต่างประเทศ เบื้องต้นจะดำเนินการให้สินเชื่อใน 2 รูปแบบ คือ โดยผู้ซื้อต่างประเทศจะดำเนินการขอสินเชื่อในโครงการผ่านสถาบันการเงินท้องถิ่น หรืออาจเป็นการให้กู้โดยตรงผ่านการประสานงานกับลูกค้าผู้ส่งออกของธนาคาร แต่ธนาคารจะต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบเพื่อให้การปล่อยสินเชื่อเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ส่วนรายละเอียดและแนวทางดำเนินการอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูล

"การดำเนินการให้สินเชื่ออาจทำได้ 2 ทาง คือให้กู้โดยตรงผ่านลูกค้าผู้ส่งออกของธนาคาร หรือผ่านแบงก์ท้องถิ่น ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลของผู้กู้ด้วยว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ หากเป็นการกู้เพื่อเสริมสภาพคล่อง แบงก์ก็ไม่ปล่อยให้" นายอภิชัย กล่าว

กรรมการผู้จัดการ เอ็กซิมแบงก์ กล่าวอีกว่า ธนาคารยังเตรียมเสนอกระทรวงการคลังขอแก้ไขกฎกระทรวง เพื่อผ่อนปรนเงื่อนไข การดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS) จาก 20% เหลือ 15% เพื่อให้ธนาคารมีสภาพคล่องมากขึ้น และช่วยเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มขึ้นจาก 5 เท่า เป็น 6 เท่า หรือจากวงเงิน 100,000 ล้านบาท เป็น 150,000 ล้านบาท

"ปกติแบงก์พาณิชย์จะมี BIS 8.5 % แต่ในส่วนของแบงก์ ซึ่งมีการค้ำประกันสินเชื่อด้วย จะต้องมี BIS สูงถึง 20% จึงอยากขอให้คลังผ่อนปรนเรื่องนี้" กรรมการผู้จัดการ เอ็กซิมแบงก์ กล่าว

โดยวันนี้ นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง ได้เป็นประธานลงนามในบันทึกความร่วมมือภายใต้การบริการประกันการส่งออก ระหว่างเอ็กซิมแบงก์กับสถาบันการเงิน 10 แห่ง หลังจากเอ็กซิมแบงก์ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้เพิ่มทุนอีก 5,000 ล้านบาท เพื่อให้บริการประกันการส่งออก เป็นการป้องกันความเสี่ยงให้ผู้ส่งออกไทยจากการไม่ได้รับการชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลก

รมช.คลัง กล่าวว่า การเพิ่มทุนของเอ็กซิมแบงก์ 5,000 ล้านบาท จะช่วยผลักดันให้มีเงินสินเชื่อเข้าสู่ระบบได้ไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท และเป็นการช่วยเหลือผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ บริการประกันการส่งออกจะช่วยให้ผู้ส่งออกเสนอเงื่อนไขการชำระเงินที่เหมาะสมและแข่งขันได้ให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศกว่า 200 ประเทศทั่วโลก โดยเอ็กซิมแบงก์จะคุ้มครองความเสี่ยงทางการค้า ได้แก่ กรณีผู้ซื้อล้มละลาย ผู้ซื้อไม่ชำระเงินค่าสินค้า และผู้ซื้อปฎิเสธการรับมอบสินค้า หรือความเสี่ยงทางการเมือง ได้แก่ การควบคุมการโอนเงินกลับไทย ที่ผู้ซื้อไม่สามารถนำสินค้ากลับประเทศไทย หรือกรณีเกิดสงคราม จราจล รัฐประหาร โดยเอ็กซิมแบงก์จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูงสุดถึง 90% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยนับตั้งแต่มีบริการประกันการส่งออกเมื่อปี 38 จนถึงสิ้นปี 51 ธนาคารจ่ายสินไหมทดแทนให้ผู้ส่งออกที่ไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้า เนื่องจากผู้ซื้อปฎิเสธการชำระเงินค่าสินค้า 78% และกรณีผู้ซื้อล้มละลาย 20% อีก 2% ผู้ซื้อปฏิเสธรับมอบสินค้า โดยธุรกิจส่งออกที่ได้รับการจ่ายสินไหมทดแทนมากที่สุด คือ อัญมณีและเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ อาหารกระป๋อง ผลิตภัณฑ์พลาสติก และยางรถจักรยาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ