ผู้ว่าฯแบงก์ชาติออสเตรเลียส่งสัญญาณขึ้นดบ.อีด หลังศก.รอดพ้นภาวะถดถอย

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 15, 2009 10:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เกลน สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเต็มสูบในอนาคต หลังจากที่ประเทศรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ ขณะที่นักลงทุนเชื่อมั่นว่าแบงก์ชาติออสเตรเลียจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 3 พ.ย.นี้

"เราเคยลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางเศรษฐกิจอย่างไร เราก็ต้องกล้าที่จะลดการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในยามที่หายนะทางเศรษฐกิจได้ผ่านพ้นไปแล้วด้วยเช่นกัน มิเช่นนั้นจะทำให้เราเกิดอคติในการกำหนดกรอบนโยบายการเงินในประเทศได้" สตีเวนส์กล่าว

ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศจี-20 ที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อสัปดาห์แล้ว โดยธนาคารได้ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.25% หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจออสเตรเลียปีหน้าขยายตัวได้ 3% โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารได้ปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 3.25% มาอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 50 ปีเมื่อช่วงเดือนก.ย.2551 ถึงเดือนเม.ย.2552

สตีเวนส์กล่าวว่า "อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำมากๆนั้นเหมาะที่จะใช้กับประเทศที่มีสภาพเศรษฐกิจอ่อนแอกว่า แต่เศรษฐกิจออสเตรเลียนั้นอยู่ในสถานะที่น่าพอใจ ดังนั้น เราจึงไม่จำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมอีกต่อไปแล้ว"

บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11:03 น. เงินดอลลาร์ออสเตรเลียเคลื่อนไหวแตะที่ระดับ 91.69 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ โดยเงินดอลลาร์ขยายตัวแตะที่ 91.74 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551

ออสเตรเลียมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง รวมถึงรายงานเมื่อช่วงที่ผ่านมาซึ่งระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนนี้พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ส่วนอัตราว่างงานลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่ยอดค้าปลีกปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของออสเตรเลียขยายตัว 1% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่ายหลังจากที่รัฐบาลจัดสรรเงินกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่ภาคครัวเรือน นอกจากนี้ รัฐบาลยังออกมาตรการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศด้วยการอัดฉีดงบอีก 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในการก่อสร้างถนน ทางหลวง และโรงเรียน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ