สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ที่ระดับ 92.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.57 น.ตามเวลาลอนดอน ซึ่งถือว่าใกล้ระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ หลังเยอรมนีส่งสัญญาณเปิดทางให้สเปนขอสินเชื่อกองทุน และสหรัฐเปิดเผยผลผลิตอุตสาหกรรมที่ดีเกินคาด ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรปและเศรษฐกิจสหรัฐ
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่รัฐสภาเยอรมนีระบุว่า เยอรมนีเปิดกว้างสำหรับการที่สเปนจะขอเครดิตไลน์จากกองทุนช่วยเหลือของยุโรป ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่ผู้นำอียูจะประชุมร่วมกันในวันพรุ่งนี้
นอกจากนั้นราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% และอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 78.3% เพิ่มขึ้นจาก 78% ในเดือนส.ค. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือว่าดีเกินคาด เทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าการผลิตจะขยับขึ้น 0.2% และอัตราการใช้กำลังการผลิตจะอยู่ที่ 78.2%
เมื่อวานนี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ได้เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 ต.ค. โดยระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ต.ค.ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยจะตัวเลขดังกล่าวในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 450,000 บาร์เรล คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะเพิ่มขึ้น 0.2%