หุ้นของธนาคารยุโรป เช่น ดอยช์ แบงก์, เครดิต สวิส และบาร์เคลย์ส ต่างปรับตัวลงในระยะนี้แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ซึ่งขณะนั้นราคาหุ้นดิ่งลงจากปัจจัยราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง แต่การร่วงลงของราคาหุ้นในครั้งนี้ เกิดจากความกังวลที่ว่า สหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วย อังกฤษ, สก็อตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ อาจตัดสินใจถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในการลงประชามติวันที่ 23 มิ.ย.
ผลการสำรวจพบว่า ผู้ที่สนับสนุนให้ออกจากสหภาพยุโรป (EU) กำลังมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ต้องการอยู่ใน EU
การปิดหีบลงคะแนนจะมีขึ้นในเวลา 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 04.00 น.ช่วงเช้ามืดของวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย.ตามเวลาไทย ซึ่งหมายความว่าทั่วโลกจะเริ่มรับรู้ผลการลงประชามติหลังจากเวลาดังกล่าว ซึ่งจะถือเป็นช่วงเวลา 24 ชั่วโมงที่จะสร้างความผันผวนมากที่สุดต่อตลาดการเงินทั่วโลกในรอบ 25 ปี ขณะที่มีการเตือนกันมาจากหลายฝ่ายว่า หากสหราชอาณาจักรตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ก็จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อค่าเงินปอนด์ซึ่งจะทำให้ทรุดตัวลง และจะกระทบอย่างหนักต่อตลาดการเงิน และตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อยุโรปที่ต้องสูญเสียสหราชอาณาจักรที่มีมูลค่าเศรษฐกิจสูงเกือบ 3 ล้านล้านดอลลาร์G7 ในการแทรกแซงตลาดการเงินด้วยการเข้าเทขาย
ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษประกาศแจ้งให้พนักงานเตรียมทำงานตลอดทั้งคืนในวันที่ 23 มิ.ย. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงต้องพร้อมเข้าประชุมเพื่อตัดสินใจในประเด็นสำคัญ หากตลาดการเงินของอังกฤษเกิดความผันผวนครั้งใหญ่
นอกจากนี้ ธนาคารยักษ์ใหญ่ของโลก เช่น ซิตี้กรุ๊ป, โกลด์แมน แซคส์, ดอยช์ แบงก์, เจพีมอร์แกน, เอชเอสบีซี, บาร์เคลย์ส, รอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ และลอยด์ ก็ได้ให้เทรดเดอร์อาวุโสอยู่ทำงานตลอดคืนเช่นกัน