สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คณะกรรมการบริหารด้านนโยบายทั้ง 9 รายของธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า บีโอเจจะยังคงดำเนินการในตลาดเพื่อเพิ่มฐานเงินที่อัตราประมาณ 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจระบุว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่น “ยังคงฟื้นตัวปานกลาง ตามแนวโน้ม" แม้ว่ามี “ความผันผวนอยู่บ้าง" อันเนื่องมาจากการปรับขึ้นภาษี
บีโอเจเปิดเผยในแถลงการณ์ถึงความผันผวนด้านการใช้จ่ายส่วนบุคคลและการลงทุนด้านที่อยู่อาศัย แต่ระบุว่าเศรษฐกิจยังคงมีการฟื้นตัวตามแนวโน้ม โดยมีการปรับตัวดีขึ้นในสถานการณ์ด้านการจ้างงานและรายได้
สำหรับบรรยากาศทางธุรกิจนั้น บีโอเจระบุว่ายังคงมีการปรับตัวดีขึ้น แต่ “มีความระมัดระวังอยู่บ้างเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ" หลังจากผลสำรวจทังกันในไตรมาสแรกปีนี้ แสดงให้เห็นว่า กลุ่มบริษัทรายใหญ่มีความเชื่อมั่นลดลงเกี่ยวกับแนวโน้มในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแรงหลังมีแรงซื้อช่วงนาทีสุดท้ายก่อนการปรับขึ้นภาษี
ทั้งนี้ บีโอเจได้คงมุมมองที่คาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงมีการฟื้นตัวปานกลาง ตามแนวโน้ม" แม้ว่จะได้รับผลกระทบจากการลดลงของอุปสงค์หลังการปรับขึ้นภาษี
นอกจากนี้ บีโอเจยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแนวโน้มราคา โดยระบุว่าอัตราการเพิ่มขึ้นในรายปีของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งไม่รวมผลกระทบของการปรับขึ้นภาษีการบริโภคนั้น มีแนวโน้มจะอยู่ที่ราว 1.25% ไปสักระยะหนึ่ง
ส่วนความเสี่ยงต่างๆนั้น บีโอเจระบุถึงปัจจัยในต่างประเทศ เช่น ความคืบหน้าในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และแนวโน้มปัญหาหนี้สินของยุโรป รวมถึงอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ