ประธานเฟดดัลลัสชี้เฟดต้องใช้ความอดทนก่อนขึ้นดบ. ขณะศก.ส่งสัญญาณชะลอตัว

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 4, 2016 23:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องใช้ความอดทนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว และภาวะตึงตัวมากขึ้นในตลาดการเงินโลก
"นี่เป็นเวลาที่ต้องใช้ความอดทน และทำการวิเคราะห์และประเมินข้อมูล เนื่องจากมีการชะลอตัวบางส่วนในเศรษฐกิจ" เขากล่าว

คำกล่าวของนายแดปแลนสอดคล้องกับนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ที่กล่าววานนี้ว่า สภาวะทางการเงินมีการตึงตัวอย่างมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และเฟดจะต้องพิจารณาปัจจัยดังกล่าวในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนมี.ค. หากภาวะดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป

นายดัดลีย์ยังระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ และการแข็งค่าของดอลลาร์ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

คำกล่าวของนายดัดลีย์เป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. หลังจากมีการคาดการณ์กันก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว

ในการประชุมในเดือนที่แล้ว คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะผันผวนในตลาดการเงิน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ขณะที่มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2006

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตร ลดลงในไตรมาส 4 รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี

ทั้งนี้ ประสิทธิภาพการผลิตลดลง 3.0% ในไตรมาสที่ 4 โดยปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2014 หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 2.1% ในไตรมาส 3

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าประสิทธิภาพการผลิตในไตรมาส 4 จะลดลงเพียง 1.8%

เมื่อพิจารณาทั้งปี 2015 ประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013

ส่วนค่าเฉลี่ยของประสิทธิภาพการผลิตตั้งแต่ปี 2007-2015 อยู่ที่ระดับ 1.2% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 2.1% ตั้งแต่ปี 1947-2015

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นมากกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 285,000 ราย โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 280,000 ราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ