นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เข้าแถลงนโยบายการเงิน และรายงานภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ หลังแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้
ในช่วงการตอบคำถามจากคณะกรรมาธิการนั้น นายเอดเวิร์ด รอยซ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน ซักถามนางเยลเลนว่า นโยบายการเงินของเฟดมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มราคาหุ้นในตลาดวอลล์สตรีท และถือเป็นเสาหลักที่ 3 ของเฟด นอกเหนือจากการทำให้สหรัฐมีการจ้างงานเต็มที่ และรักษาเสถียรภาพของราคาหรือไม่
นางเยลเลนกล่าวตอบว่า "มันไม่ใช่เสาหลักที่ 3 ของนโยบายการเงิน เราไม่มีเป้าหมายอยู่ที่ระดับราคาหุ้น ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งเหมาะสมที่จะทำ"
"เรามองไปยังทิศทางเศรษฐกิจ และเป้าหมายที่สภาคองเกรสมอบหมายให้แก่เรา ซึ่งคือการทำให้สหรัฐมีการจ้างงานเต็มที่ และรักษาเสถียรภาพของราคา โดยใช้นโยบายที่เราคิดว่าเหมาะสมในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว"
ในการแถลงในช่วงแรกวันนี้ นางเยลเลนแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยระบุว่า เศรษฐกิจกำลังดีดตัวขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่าย
นางเยลเลนระบุว่า การอ่อนตัวของการจ้างงานในช่วงที่ผ่านมา เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และไม่ได้สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว
ส่วนในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ นางเยลเลนได้ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนหลายประการ ซึ่งทำให้เฟดจำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยได้ระบุถึงการชะลอตัวของการจ้างงานในเดือนเม.ย.และพ.ค. และกล่าวว่าเฟดจะจับตาอย่างระมัดระวังเพื่อพิจารณาว่าภาวะชะลอตัวดังกล่าวเป็นปัจจัยเพียงชั่วคราว หรือเป็นสัญญาณบ่งชี้ปัญหาที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ นางเยลเลนยังได้ระบุถึงประสิทธิภาพด้านการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ และภาวะอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ขณะเดียวกัน นางเยลเลนยังได้แสดงความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และการลงประชามติในอังกฤษเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)