ประธาน ECB เตือนยูโรโซนเผชิญภาวะปั่นป่วนปีหน้า ขณะหลายประเทศจัดการเลือกตั้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 8, 2016 23:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวในการแถลงข่าวว่า ยูโรโซนจะเผชิญกับภาวะปั่นป่วนจากการจัดการเลือกตั้งในหลายประเทศในปีหน้า และเป็นหน้าที่ของ ECB ที่จะต้องเข้าไปมีบทบาทในการพยุงเศรษฐกิจ

"มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นทุกหนทุกแห่ง เมื่อเราดูปฏิทินการเลือกตั้งในปีหน้า" เขากล่าว

ทั้งนี้ ในปีหน้าจะมีการเลือกตั้งผู้นำขึ้นในหลายประเทศ เช่น อิตาลี เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมนี โดยตัวเก็งที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำในอิตาลี และฝรั่งเศส ต่างก็มีจุดยืนที่จะนำประเทศออกจากสหภาพยุโรป และยูโรโซน

ขณะเดียวกัน นายดรากีระบุว่า การที่ ECB มีมติลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีหน้า ไม่ได้เป็นการบ่งชี้ว่า ECB กำลังส่งสัญญาณยุติการซื้อพันธบัตรในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

"เราไม่ได้หารือกันถึงการยุติการซื้อพันธบัตรในการประชุมวันนี้แต่อย่างใด" เขากล่าว

นายดรากีระบุว่า วงเงิน 6 หมื่นล้านยูโรอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับที่มีความจำเป็น เพื่อให้คณะกรรมการของ ECB สามารถรับมืออย่างยืดหยุ่นต่อความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้น

นายดรากียังกล่าวว่า การตัดสินใจขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ในการประชุมวันนี้ จะช่วยหนุนเศรษฐกิจยูโรโซนได้อย่างมาก ถึงแม้ ECB จะลดวงเงิน QE ตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีหน้า

นายดรากีกล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวจะช่วยสร้างความมั่นใจว่าสถานะทางการเงินในยูโรโซนจะยังคงมีความแข็งแกร่ง

ประธาน ECB ระบุว่า การขยายระยะเวลาของมาตรการ QE ออกไปอีก 9 เดือน แทนที่จะเป็น 6 เดือนตามที่ตลาดคาดการณ์กันไว้ บ่งชี้ถึงตลาดที่จะมีเสถียรภาพมากขึ้น และจะทำให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ECB มีความยั่งยืนมากขึ้น

ทั้งนี้ ECB จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ออกไปอีก 9 เดือน โดยให้สิ้นสุดในเดือนธ.ค.2017 จากเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนมี.ค.2017

อย่างไรก็ดี ECB ระบุว่าจะลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรในช่วงเดือนเม.ย.2017-ธ.ค.2017 สู่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากปัจจุบันที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน

ECB ระบุว่า ทางธนาคารกลางจะพิจารณาปรับวงเงิน และระยะเวลาในการดำเนินมาตรการ QE หากมีความจำเป็น

ขณะเดียวกัน ECB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB

นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ