"เยลเลน" เผยเฟดเผชิญปัญหาเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้า แต่ยังส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 22, 2017 10:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในระหว่างการประชุมเสวนาร่วมกับนายเมอร์วิน คิง อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่สถาบันสเติร์น มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เมื่อวานนี้ว่า หนึ่งในปัญหาท้าทายที่สำคัญที่สุดของเฟดในเวลานี้ก็คือ เงินเฟ้อสหรัฐยังคงเคลื่อนตัวต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% ของเฟด อย่างไรก็ตาม เธอระบุว่า เฟดจะยังเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไป

ปัจจุบันเงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด แม้ว่าตลาดแรงงานจะส่งสัญญาณที่กระเตื้องขึ้นก็ตาม โดยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญนั้น เพิ่มขึ้นเพียง 1.3% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และขยับขึ้นเพียง 0.9% จากไตรมาส 2

"เฟดกำลังเผชิญปัญหาในการกำหนดนโยบายการเงินที่จะช่วยรักษาภาวะการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ขณะเดียวกันก็ช่วยหนุนเงินเฟ้อให้ปรับตัวสู่ระดับเป้าหมายของเราที่ 2%" นางเยลเลน กล่าว

นางเยลเลน ซึ่งจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนก.พ.ปีหน้า และจะก้าวลงจากตำแหน่งสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดด้วยนั้น กล่าวเตือนว่า "ระดับเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไปนั้น อาจส่งผลให้การคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคปรับตัวลดลง ดังที่เคยปรากฏให้เห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา" อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่า ที่ผ่านมานั้น การคาดการณ์เงินเฟ้อได้ปรับตัวลงไม่มาก

เธอกล่าวเสริมด้วยว่า หากเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนตัวต่ำกว่าเป้าหมาย จะส่งผลต่อการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) รวมถึงการพิจารณาระดับอัตราดอกเบี้ยปกติ (neutral rate) ใหม่อีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นตัวเลขต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้มาก ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยปกติคือระดับดอกเบี้ยที่ไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง

นอกจากนี้ นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า หากเฟดถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินช้าจนเกินไป อาจส่งผลให้ตลาดแรงงานตกอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป และอาจหนุนตัวเลขเงินเฟ้อให้พุ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2%

นางเยลเลนคาดว่า เงินเฟ้อสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในปีหน้า แต่ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระดับราคาผู้บริโภค พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่า เฟดจะจับตาตัวเลขเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิดต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ