สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) โดยสัญญาทองคำทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 7 วันทำการ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ระดับ 1,220.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 8.20 เซนต์ หรือ 0.50% ปิดที่ 16.343 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 0.10% ปิดที่ 995.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 12.80 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 543.65 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 268,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ค.
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 3.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเดียง 0.5% ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) พุ่งขึ้น 5.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 116.3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2006
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุด นายนายเจอโรม เพาเวล หนึ่งในคณะผู้ว่าการของเฟดกล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า ถ้าหากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐปรับตัวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเฟด