สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ต.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสัญญาทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.40 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ระดับ 1,267.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 11.4 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 17.549 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 8.1 ดอลลาร์ หรือ 0.86% ปิดที่ 935.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.65 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 632.85 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อดอลลาร์แข็งค่านั้น จะส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมเมื่อวานนี้ และได้คงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ไปจนถึงเดือนมี.ค.2560
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.47 ล้านยูนิต ซึ่งสูงกวาที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.35 ล้านยูนิต