สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นและตลาดน้ำมัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1,169.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.4 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 16.506 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 911.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 20.95 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 751.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยปัจจัยส่วนใหญ่มาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
ส่วนปัจจัยล่าสุดที่กดดันสัญญาทองคำเมื่อคืนนี้ มาจากการที่นักลงทุนหันไปเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นและตลาดน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นขานรับมติการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังกดดันให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยเมื่อคืนนี้ สหรัฐเปิดเผยยอดการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 0.5% และดัชนีภาคการผลิตที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน โดยเพิ่มขึ้นจากระดับของ 51.9 ในเดือนต.ค.
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนพ.ย.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ โดยข้อมูลดังกล่าวจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%