ราคาทองดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ
อย่างไรก็ดี แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ ยังคงเป็นปัจจัยจำกัดช่วงบวกของราคาทอง
ทั้งนี้ ราคาทองสปอตพุ่งขึ้น 0.48% แตะระดับ 1,256.20 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.
ส่วนราคาทองในตลาดฟิวเจอร์นั้น ณ เวลา 22.37 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ดีดตัวขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.66% สู่ระดับ 1,257.60 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสามารถทะลุระดับเส้นค่าเฉลี่ยรอบ 50 วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเยน ขณะตลาดขาดปัจจัยหนุน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่อยู่นอกตลาดเพื่อรอการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์หน้า
ณ เวลา 20.13 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.09% สู่ระดับ 111.22 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.17% สู่ระดับ 124.33 เยน และดีดตัวขึ้น 0.28% สู่ระดับ 1.1181 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.20% สู่ระดับ 97.40
ถึงแม้ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเทียบเยนในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ที่ตลาดการเงินนิวยอร์ก หลังการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน แต่ดอลลาร์ก็ยังคงขาดแรงหนุนให้ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายวันนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า ดอลลาร์ปรับตัวไร้ทิศทาง ขณะที่นักลงทุนรอปัจจัยใหม่ๆในสัปดาห์หน้า ซึ่งได้แก่ตัวเลขเศรษฐกิจจากสหรัฐ และการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กรุงลอนดอนในวันอังคาร ซึ่งนักลงทุนจะจับตาการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางของนโยบายการเงินของเฟด
ขณะเดียวกัน นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์, นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ และนายเจอโรม โพเวลล์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ ซึ่งนักลงทุนจะจับตาเพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งได้แก่ ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทน รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 1 ของสหรัฐ
ผลการสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ ร่วงลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากแตะระดับ 53.6 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ