สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ลงมติคงอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 10.6 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,260 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 11.4 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 16.573 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 926.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 14 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 876.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดพุ่งขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า การปรับตัวของเศรษฐกิจจะสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่เฟดจะยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ขณะเดียวกันเฟดได้ส่งสัญญาณที่จะเริ่มปรับลดงบดุลในเดือนก.ย. จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ หากเศรษฐกิจปรับตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนเมื่อคืนนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าลดลง 3.7% ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 6.39 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีการส่งออกเพิ่มขึ้น โดยการส่งออกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.286 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ขณะที่การนำเข้าลดลง 0.7 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.924 แสนล้านดอลลาร์
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 244,000 ราย หลังจากที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว