สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) โดยสัญญาทองคำปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 7 นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.ในวันนี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 4 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ระดับ 1,274.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 10.3 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 16.63 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 10.8 ดอลลาร์ หรือ 1.13% ปิดที่ 964.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 11.20 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 881 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเดินหน้าเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทำสถิตินิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 7 สืบเนื่องมาจากรายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่พุ่งขึ้น 3.0% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2016 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.9%
ขณะที่ผลการสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.7 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. จากระดับ 54.2 ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 180,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ค.จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.3% จากระดับ 4.4% ในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรถือเป็นหนึ่งในข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยแถลงการณ์ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า เฟดกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปและการปรับลดงบดุลบัญชีในปีนี้