สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ส.ค.) โดยสัญญาทองคำปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐและเกาหลีเหนือได้ออกมาตอบโต้กันรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสร้างความหวั่นวิตกว่าอาจจะส่งผลให้สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีมีความตึงเครียดมากขึ้นด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.90 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,294.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.3%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ขยับขึ้น 0.5 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 17.07 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 989.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 2.35 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 894.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และการตอบโต้กันไปมาระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะบรรเทาลง โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความเตือนเกาหลีเหนืออีกครั้งเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐได้จัดเตรียมอาวุธเต็มพิกัด พร้อมกับบรรจุขีปนาวุธเรียบร้อยแล้ว โดยมีการเล็งเป้าหมายไปยังเกาหลีเหนือ เช่นเดียวกับนายจิม แมตทิส รมว.กลาโหมสหรัฐ ที่แถลงยืนยันว่า สหรัฐพร้อมตอบโต้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในรัฐนิวเจอร์ซีย์ว่า เขามีแผนจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมระบบป้องกันขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือและแหล่งอื่นๆ ซึ่งทางทำเนียบขาวจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในสัปดาห์หน้า
ท่าทีล่าสุดของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือประกาศจะโจมตีน่านน้ำบริเวณเกาะกวมของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงกลางเดือนส.ค.ที่จะถึงนี้
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. โดยดัชนีขยายตัวที่ระดับ 0.1% เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน