สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (14 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่สถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีเริ่มสัญญาณคลี่คลายลง ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ระดับ 1,290.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 5.2 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 17.122 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 14.8 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 974.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3.45 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 898.15 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ในคาบสมทุรเกาหลีเริ่มส่งสัญญาณคลี่คลายลง ภายหลังจากนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ และนายจิม แมททิส รมว.กลาโหม ออกมายืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐจะยังคงใช้แนวทางทางการทูตในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล และทำให้กระแสแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ และสกุลเงินเยน ได้บรรเทาลง
ทั้งนี้ นายทิลเลอร์สัน และนายแมททิสได้ระบุในบทความที่มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลฉบับวันอาทิตย์ว่า "สหรัฐไม่มีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือ หรือเร่งกระบวนการรวมชาติเกาหลีแต่อย่างใด"
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ