สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ระดับ 1,294.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 6.4 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 17.046 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 980.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือเกือบ 0.1% ปิดที่ 933 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดดีดตัวขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้สัญญาทองคำมีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในสหรัฐมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานลง ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ออกรายงานเตือนว่า หากสภาคองเกรสสหรัฐประสบความล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐในเวลาที่เหมาะสม ฟิทช์ก็อาจต้องปรับทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ โดยมีแนวโน้มปรับลดลงจากระดับ AAA ในขณะนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลงในเดือนก.ค. โดยร่วงลง 9.4% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 571,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากพุ่งแตะระดับ 630,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"