สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า และความวิตกกังวลว่า เกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ระดับ 1,351.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.7 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 18.123 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,012.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 17.60 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 931.25 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลัก เนื่องจากนักลงทุนได้ปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนที่แนะนำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะเดียวกัน เขาคาดว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำ และคาดว่างบดุลของเฟดจะลดลงสู่ระดับ 2.4-3.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นทศวรรษหน้า จากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
นักลงทุนยังแห่ซื้อทองคำซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากวิตกกังวลว่าเกาหลีเหนือจะยิงขีปนาวุธเพื่อเฉลิมฉลองวันชาติในวันนี้
นายลี นัค ยอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวเตือนว่า เกาหลีเหนืออาจทำการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ในวันนี้ ซึ่งเป็นวันชาติของเกาหลีเหนือ
"มีการคาดการณ์กันว่าเกาหลีเหนืออาจทำการยั่วยุต่อไปโดยการยิงขีปนาวุธ ICBM ในวันที่ 9 ก.ย." เขากล่าว
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ทำการทดลองนิวเคลียร์ในการเฉลิมฉลองวันชาติในวันที่ 9 ก.ย.ปีที่แล้ว
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 โดยเพิ่มขึ้น 1.6% ในสัปดาห์นี้