สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทำนิวไฮ รวมทั้งปัจจัยกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ระดับ 1,246.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.8 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 15.785 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 9.10 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 892.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.35 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 998.75 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันนั้น นักลงทุนได้เข้าซื้อสัญญาทองคำ หลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายในย่านไทม์สแควร์ เมืองแมนฮัตตันของสหรัฐเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.20 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 19.20 น.ตามเวลาไทย เมื่อวานนี้ ใกล้กับสถานีรถขนส่งในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถานีที่มีจำนวนรถขนส่งคับคั่งที่สุดในโลก ขณะที่ตำรวจนิวยอร์กสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งเป็นชายวัย 27 ปี