สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นทำนิวไฮ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ขยับขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1257.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 12.9 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 16.063 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 8.2 ดอลลาร์ หรือ 0.93% ปิดที่ 889.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 13.30 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,015.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำเป็นไปอย่างซบเซา โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.27% แตะที่ 93.94 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นหุ้น หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานทำนิวไฮเมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาพรรครีพับลิกันซึ่งเตรียมเปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายที่ผ่านการรวมเนื้อหาของร่างกฎหมายของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีดังกล่าวจะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 21% จากระดับ 35% โดยมีผลบังคับใช้ทันทีในปีหน้า แทนที่จะชะลอออกไปอีก 1 ปีตามร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของวุฒิสภา
ด้านนายออร์ริน แฮทช์ ประธานคณะกรรมาธิการภาษีประจำวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า วุฒิสภาจะลงมติในวันที่ 18 ธ.ค.ต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายฉบับดังกล่าว และจากนั้นสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติในวันที่ 19 ธ.ค.