สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 8 ดอลลาร์ หรือ 0.64% ปิดที่ระดับ 1265.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ขยับขึ้น 14.2 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 16.205 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 23.8 ดอลลาร์ หรือ 2.68% ปิดที่ 913.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 3.35 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,012.05 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดดีดตัวขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.24% สู่ระดับ 93.706 เมื่อคืนนี้
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น มาจากความกังวลที่ว่า ถึงแม้สหรัฐจะผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษีจนเป็นผลสำเร็จ แต่ก็อาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ไม่มากเท่าที่รัฐบาลคาดหวังไว้
ทั้งนี้ สภาคองเกรสสหรัฐมีกำหนดลงมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีขั้นสุดท้ายอย่างเร็วที่สุดภายในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามรับรองเป็นกฎหมายก่อนวันคริสต์มาส โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมุ่งลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงเหลือ 21% จากระดับ 35% ในปัจจุบัน
นักลงทุนจับตากระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายของ GDP ประจำไตรมาส 3/2560 ในวันพฤหัสบดีนี้ ส่วนการประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งได้เปิดเผยไปเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า GDP ขยายตัวที่ระดับ 3.3% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 3.0%