สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาว่า รัสเซียและจีนจงใจลดค่าเงิน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 1350.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.9 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 16.677 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 931.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 22.80 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1,003.75 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.41% แตะระดับ 89.47 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่า จะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาลดลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น มาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ โดยกล่าวหารัสเซียและจีนว่าจงใจลดค่าเงิน
"รัสเซียและจีนกำลังเล่นเกมลดค่าเงิน ขณะที่สหรัฐกำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นี่เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ปธน.ทรัมป์กล่าวหารัสเซียและจีนในเรื่องการลดค่าเงินเมื่อวานนี้ แม้ว่ากระทรวงการคลังสหรัฐออกรายงานในวันศุกร์ระบุว่า ไม่มีประเทศใดที่มีพฤติกรรมจัดอยู่ในกลุ่มที่จงใจปั่นค่าเงิน โดยจีนยังคงถูกขึ้นบัญชีในฐานะประเทศที่"ถูกจับตามอง"พฤติกรรมการดำเนินการเกี่ยวกับค่าเงิน และนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ขณะที่รัสเซียไม่ได้ถูกขึ้นบัญชีดังกล่าว